ปลัดสธ.กำชับทุกจังหวัด จับตา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เฝ้าระวังโรคมือเท้าปากแบบวันต่อวัน แม้สถานการณ์ของโรคจะไม่รุนแรง โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล และสวนสนุก ขณะที่ผลการตรวจเบื้องต้นการเสียชีวิตของเด็กอายุ 2 ขวบครึ่ง ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากโรคมือเท้าปาก
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นท์ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตาม และประเมินสถานการณ์โรคมือเท้าปาก ซึ่งจากการติดตามการระบาดวิทยาตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ พบผู้ป่วยแล้วประมาณ 13,000 คน ร้อยละ 90 เกิดในเด็กช่วงอายุแรกเกิดถึง 5 ปี และมักพบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง โดยการระบาดของโรค จะอยู่ในช่วงมิถุนายน-สิงหาคม และจะคลี่คลายลงในช่วงเดือนกันยายน ถือว่า เป็นโรคนี้เป็นโรคที่พบตามฤดูกาล แม้ปีนี้สถานการณ์การเกิดโรคจะมากกว่าปีที่ผ่านมา
นายแพทย์ไพจิตร์ยืนยันว่า เชื้อโรคที่พบในไทยไม่รุนแรง และยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ สำหรับมาตรการควบคุมโรคนั้น ได้กำชับสาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ เน้นมาตรการเฝ้าระวังใน 3 เรื่องแบบวันต่อวัน ได้แก่ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้แพร่กระจายไปในวงกว้าง การรณรงค์ทำความสะอาดอุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องใช้ส่วนตัว และห้องเรียน โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล สวนสนุก และหากพบเด็กป่วยเป็นไข้อย่างน้อย 3 วัน หรือ มีอาการซึม อาเจียน ชักกะตุก ให้ประสานผู้ปกครองเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เพราะเชื้อชนิดนี้ หากเกิดโรคแทรก อาจทำให้อยู่ในภาวะเสี่ยงได้
ส่วนกรณีที่พบเด็กอายุ 2 ขวบครึ่ง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีเมื่อวานนี้ ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันแล้วว่าไม่พบเชื้อโรคมือเท้าปาก ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจและสมองอักเสบ ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลภายใน 5 วัน
