การเดินทางตลอด 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์ จนกลายเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำพาจีนขึ้นมาอยู่มหาอำนาจแถวหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวคิดของผู้นำทั้ง 5 รุ่นมีส่วนสำคัญส่งผลให้พรรคปรับตัวอยู่รอดถึงทุกวันนี้ แม้แนวทางของผู้นำแต่ละรุ่นอาจจะแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เป้าหมายของผู้นำเดินไปในทิศทางเดียวกัน จนมาถึงจุดที่จีนกล้าประกาศอย่างเต็มตัวว่าจะไม่ยอมให้ใครข่มเหงรังแก
ภายใต้ภาพความยิ่งใหญ่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน อยู่ในบรรยากาศของการเฉลิมฉลองความสำเร็จ 100 ปี มันก็อาจจะเป็นความพยายามลบภาพที่เคยเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเช่นกัน นโยบายก้าวกระโดด พัฒนาอุตสาหกรรมหนักจีน การปฏิวัติวัฒนธรรม หรือเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ล้วนทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และนี่ก็เป็นสิ่งที่โลกตะวันตกมักจะหยิบยกขึ้นมาพูด แม้ว่าจีนจะอยากลืม
ความเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก ก็คือการเน้นพัฒนาเทคโนโลยี จนถูกเรียกว่า พรรคคอมมิวนิสต์ไฮเทค เทคโนโลยีของจีน ก้าวกระโดดขึ้นมาแซงหน้าญี่ปุ่น ใกล้เคียงกับอเมริกา และเป้าหมายนับจากนี้อีก 100 ปีข้างหน้า คงจะพัฒนามากขึ้นไปอีก แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แม้นโยบายเทคโนโลยีและเปิดประเทศทำให้จีนเติบโตขึ้น แต่อีกด้านก็เต็มไปด้วยความท้าทาย
ความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนจะถูกสั่นคลอนอีกครั้ง จากเกมการเมืองในสภา เหตุการณ์ที่สภาล่ม เบื้องหลังอาจจะเห็นภาพความขัดแย้งระหว่างพลังประชารัฐกับภูมิใจไทยที่เห็นต่างในร่างกฎหมายวัตถุอันตราย ในขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลเปิดหน้าชน ยื่นญัตติให้ยุบ ศบค. และปรับ ครม. จากข้อกล่าวหา บริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยก็มีข้อเสนอคล้ายกัน
การฉีดวัคซีนสลับชนิดกันระหว่างเข็ม 1 กับเข็ม 2 หรือการฉีดกระตุ้นด้วยเข็มที่ 3 เริ่มมีผลการศึกษาที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และอาจจะใช้เป็นบทเรียนสำหรับประเทศไทยได้ กรณีที่ต้องต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ และการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถานการณ์ที่ออสเตรเลีย บ่งบอกชัดเจนถึงความร้ายกาจของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ว่ามันระบาดได้เร็ว ออสเตรเลียต้องตัดสินใจปิด 7 เมืองอีกครั้งเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ปัญหาอีกอย่างคือการฉีดวัคซีนค่อนข้างล่าช้า เพราะไม่ได้รับการส่งมอบตามเป้าหมาย
งานครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉายภาพความสำเร็จของพรรคการเมืองที่เก่าแก่และครองอำนาจต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ในยุคปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นบทบาทผู้นำที่ชัดเจน พูดคุยกับ "อภิสิทธิ์ เวชชาขีวะ" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเมินว่าการรวมศูนย์อำนาจของพรรคไว้ที่สี จิ้นผิง คนเดียวอาจจะเป็นความเสี่ยงเช่นกัน
ติดตามชมใน "ข่าวเจาะย่อโลก" ในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 ในช่วงข่าวค่ำมิติใหม่ทั่วไทย ทางไทยพีบีเอส รับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live
การเดินทางตลอด 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์ จนกลายเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำพาจีนขึ้นมาอยู่มหาอำนาจแถวหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวคิดของผู้นำทั้ง 5 รุ่นมีส่วนสำคัญส่งผลให้พรรคปรับตัวอยู่รอดถึงทุกวันนี้ แม้แนวทางของผู้นำแต่ละรุ่นอาจจะแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เป้าหมายของผู้นำเดินไปในทิศทางเดียวกัน จนมาถึงจุดที่จีนกล้าประกาศอย่างเต็มตัวว่าจะไม่ยอมให้ใครข่มเหงรังแก
ภายใต้ภาพความยิ่งใหญ่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน อยู่ในบรรยากาศของการเฉลิมฉลองความสำเร็จ 100 ปี มันก็อาจจะเป็นความพยายามลบภาพที่เคยเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเช่นกัน นโยบายก้าวกระโดด พัฒนาอุตสาหกรรมหนักจีน การปฏิวัติวัฒนธรรม หรือเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ล้วนทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และนี่ก็เป็นสิ่งที่โลกตะวันตกมักจะหยิบยกขึ้นมาพูด แม้ว่าจีนจะอยากลืม
ความเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก ก็คือการเน้นพัฒนาเทคโนโลยี จนถูกเรียกว่า พรรคคอมมิวนิสต์ไฮเทค เทคโนโลยีของจีน ก้าวกระโดดขึ้นมาแซงหน้าญี่ปุ่น ใกล้เคียงกับอเมริกา และเป้าหมายนับจากนี้อีก 100 ปีข้างหน้า คงจะพัฒนามากขึ้นไปอีก แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แม้นโยบายเทคโนโลยีและเปิดประเทศทำให้จีนเติบโตขึ้น แต่อีกด้านก็เต็มไปด้วยความท้าทาย
ความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนจะถูกสั่นคลอนอีกครั้ง จากเกมการเมืองในสภา เหตุการณ์ที่สภาล่ม เบื้องหลังอาจจะเห็นภาพความขัดแย้งระหว่างพลังประชารัฐกับภูมิใจไทยที่เห็นต่างในร่างกฎหมายวัตถุอันตราย ในขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลเปิดหน้าชน ยื่นญัตติให้ยุบ ศบค. และปรับ ครม. จากข้อกล่าวหา บริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยก็มีข้อเสนอคล้ายกัน
การฉีดวัคซีนสลับชนิดกันระหว่างเข็ม 1 กับเข็ม 2 หรือการฉีดกระตุ้นด้วยเข็มที่ 3 เริ่มมีผลการศึกษาที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และอาจจะใช้เป็นบทเรียนสำหรับประเทศไทยได้ กรณีที่ต้องต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ และการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถานการณ์ที่ออสเตรเลีย บ่งบอกชัดเจนถึงความร้ายกาจของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ว่ามันระบาดได้เร็ว ออสเตรเลียต้องตัดสินใจปิด 7 เมืองอีกครั้งเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ปัญหาอีกอย่างคือการฉีดวัคซีนค่อนข้างล่าช้า เพราะไม่ได้รับการส่งมอบตามเป้าหมาย
งานครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉายภาพความสำเร็จของพรรคการเมืองที่เก่าแก่และครองอำนาจต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ในยุคปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นบทบาทผู้นำที่ชัดเจน พูดคุยกับ "อภิสิทธิ์ เวชชาขีวะ" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเมินว่าการรวมศูนย์อำนาจของพรรคไว้ที่สี จิ้นผิง คนเดียวอาจจะเป็นความเสี่ยงเช่นกัน
ติดตามชมใน "ข่าวเจาะย่อโลก" ในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 ในช่วงข่าวค่ำมิติใหม่ทั่วไทย ทางไทยพีบีเอส รับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live