วานนี้ (1 ก.ค. 67) ศาลสูงสหรัฐฯ เผยแพร่คำตัดสิน หลังผู้พิพากษาศาลสูงมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง รับรองความคุ้มกันของผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีผลให้การกระทำของอดีตประธานาธิบดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของรัฐธรรมนูญ จะไม่สามารถถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้
แต่ศาลสูงสหรัฐฯ ระบุว่า ความคุ้มกันนี้ไม่มีผลครอบคลุมการกระทำใด ๆ ที่ไม่อยู่ในขอบข่ายการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการของอดีตประธานาธิบดี
คำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจได้รับความคุ้มกันจากการถูกดำเนินอาญา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่การก่อตั้งประเทศของสหรัฐฯ ที่ศาลสูงรับรองความคุ้มกันดังกล่าว ท่ามกลางการแสดงความกังวลของฝ่ายที่คัดค้านว่าคำตัดสินนี้จะเปิดทางให้อดีตประธานาธิบดีอยู่เหนือกฎหมายได้
คำตัดสินดังกล่าว จะส่งผลให้การดำเนินคดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 ต้องล่าช้าออกไป
วานนี้ (1 ก.ค. 67) ศาลสูงสหรัฐฯ เผยแพร่คำตัดสิน หลังผู้พิพากษาศาลสูงมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง รับรองความคุ้มกันของผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีผลให้การกระทำของอดีตประธานาธิบดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของรัฐธรรมนูญ จะไม่สามารถถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้
แต่ศาลสูงสหรัฐฯ ระบุว่า ความคุ้มกันนี้ไม่มีผลครอบคลุมการกระทำใด ๆ ที่ไม่อยู่ในขอบข่ายการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการของอดีตประธานาธิบดี
คำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจได้รับความคุ้มกันจากการถูกดำเนินอาญา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่การก่อตั้งประเทศของสหรัฐฯ ที่ศาลสูงรับรองความคุ้มกันดังกล่าว ท่ามกลางการแสดงความกังวลของฝ่ายที่คัดค้านว่าคำตัดสินนี้จะเปิดทางให้อดีตประธานาธิบดีอยู่เหนือกฎหมายได้
คำตัดสินดังกล่าว จะส่งผลให้การดำเนินคดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 ต้องล่าช้าออกไป