ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งเป็นการติดต่อกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และไต้หวันเป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี นับตั้งแต่สหรัฐฯ ยึดถือนโยบายจีนเดียว ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่าอาจจะทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจ
ขณะที่การชุมนุมประท้วงนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ขยายวงกว้าง ล่าสุดมีการรณรงค์ให้ใช้วิธีที่มีผลโดยตรงยิ่งกว่าการประท้วง นั่นก็คือ การล่ารายชื่อกดดันไม่ให้คณะผู้เลือกตั้งเลือกนายทรัมพ์เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งมีคนดังให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม
ทำเนียบขาวเผยแพร่ภาพนางมิเชล โอบามา สนทนากับนางเมลาเนีย ทรัมพ์ ว่าที่สตรีหมายเลข 1 ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.2559) ทั้งคู่พบกันระหว่างที่นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาพบปะหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรื่องเตรียมการรับตำแหน่ง
นักศึกษา-ชาวฟิลิปปินส์รวมตัวประท้วง “โดนัลด์ ทรัมพ์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้สถานทูตสหรัฐฯ ในมะนิลา เหตุกังวลสหรัฐฯ มีอิทธิพลเหนือฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น ด้านผู้นำมาเลเซีย-อินโดนีเซีย-มาเลเซีย จับมือไล่ล่าโจรสลัดเรียกค่าไถ่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์
ชาวอเมริกาในรัฐฟลอริดายังคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป หลังได้ฟังสุนทรพจน์ โดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขอให้ยุติความแตกแยกในสังคมอเมริกา โดย ทรัมพ์ ชนะการเลือกตั้งในรัฐฟลอริดา ด้วยคะแนน 49% ขณะที่คู่แข่งอย่าง ฮิลลารี คลินตัน ได้รับคะแนน 48%