นับถอยหลังไม่ถึง 48 ชม. กับสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานี ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 67 มีผู้ลงชิงชัย 3 คน แต่ดูเหมือนสนามการเมืองท้องถิ่น อาจพยากรณ์ไปถึงศักดิ์ศรีและทิศทางการเมืองระดับชาติ เพราะมีผู้สมัครจาก 2 ค่ายการเมือง ขับเคี่ยวกันดุเดือด คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน
ลุ้น “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะมีมติว่าจะ “รับหรือไม่รับ” ? คำร้องของธีรยุทธ์ สุวรรณเกษร ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิและเสรีภาพ นำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 หรือไม่
สารพัดกรณีถาโถมเสถียรภาพรัฐบาล ตั้งแต่ MOU44 ระหว่างไทย-กัมพูชา จะทำให้ไทยเสียดินแดนหรือไม่ ยังมีเรื่องความเหมาะสมของโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์, การขยายเวลาให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี, กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อยู่รับโทษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ ตลอดจนข้อครหาการส่งคนไปชิงตำแหน่งประธานแบงก์ชาติ จนทำให้เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ออกมาประเดิมชุมนุมทวงถามความชัดเจน ไม่เพียง คปท. ยังมีเครือข่ายต่อต้านระบอบทักษิณ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ และอาจขขายตัวในเร็ว ๆ นี้ วิเคราะห์กับ เสาวลักษณ์ วัฒนศิลป์
วันนี้ (1 พ.ย. 67) นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ นักวิชาการอิสระ ประเมินสถานการณ์พรรคเพื่อไทย ที่มีทั้งคดียุบพรรค กรณีคำร้องครอบงำพรรค หรือจะกรณีดิไอคอนกรุ๊ปที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ อ้างถึงเทวดาเป็นนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย และอีกหลายประเด็นที่กำลังถาโถม ถือเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงของพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางสัมพันธภาพพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจถูกมองว่าถูกโดดเดี่ยว พูดคุยไม่ลงตัวหลายเรื่อง ปัจจัยอาจส่งให้รัฐบาลเพื่อไทยอยู่ไม่ครบ 4 ปี
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย "สรวงศ์ เทียนทอง" เป็นคนหนึ่งที่ออกมาตอบโต้โฆษกพลังประชารัฐ ที่ออกมากล่าวหาว่า มีบุคลากรสังกัดพรรคเพื่อไทย เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ #ดิไอคอน เผย ทีมกฎหมายของพรรคกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าชี้แจง รวมถึงมองว่า การที่โฆษกพลังประชารัฐเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะหวังผลทางการเมือง รับไม่กังวล แต่ยอมไม่ได้ที่กล่าวหาพรรค เพราะพรรคคือองค์กร ไม่ใช่ตัวบุคคล
วันนี้ (19 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้หยิบคำร้องยุบพรรคขึ้นมาพิจารณา ทั้งคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองอื่น ๆ และพบว่ามีมูล กรณีถูกครอบงำ-ชี้นำ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น 1 ชุด กรณีพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ-ชี้นำต่างกรรม-ต่างวาระไป กรณีเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า หารือพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 รวมถึงกรณีนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี, การชี้นำพรรคเพื่อไทยในการเลือกพรรคร่วมรัฐบาล และการแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 67 จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล
ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ขอศาลให้รัฐธรรมนูญ สั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย หยุดการกระทำล้มล้างการปกครองฯ รับไว้พิจารณาหรือไม่ เรื่องนี้ รศ. สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และ รศ. เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย เปิดมุมมองไว้น่าสนใจ อย่าง รศ. สมชัย ศรีสุทธิยากร มองภาพรวมถือว่าคำร้องมีประเด็นเฉียบคม และมีมุมกฎหมายซ่อนไว้อยู่ แต่ทั้งนี้อาจต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่จะทำให้ศาลเชื่อถึงการครอบงำ ชี้นำ สั่งการ ส่วน รศ. เจษฎ์ โทณะวณิก มองคำร้องของนายธีรยุทธ มีความผิดถึง 2 เด้ง โดยเด้งแรกนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้ และเด้งที่สองคือความผิดฐานอาญา
กรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกใช้สิทธิ และเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ล่าสุด นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี-ฝ่ายการเมือง มองว่า การยื่นคำร้องนี้ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ จะรับหรือไม่รับ แต่เบื้องต้นทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย กำลังตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้อยู่ พร้อมเชื่อว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง-สนับสนุน ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย มองว่า หากดูจากคำร้อง 6 ข้อ ถือว่าไกลกว่าเหตุที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองฯ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 67 เวลา 19.19 น. คณะกรรมการนับคะแนน เลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่า นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้ 35,230 คะแนน ส่วน นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ จากพรรคประชาชน ได้ 28,486 คะแนน ห่างกัน 6,744 คะแนน สำหรับหน่วยเลือกตั้งในวันนี้ มีทั้งหมด 208 หน่วย มีผู้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 138,705 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาใช้สิทธิ 71,827 คน เป็นบัตรดี 63,828 ใบ บัตรเสีย 1,050 ใบ ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6,688 ใบ
ผลเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก นอกจากความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีกของพรรคประชาชน อีกด้านยังเป็นการเปิดประตูชัยของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดนี้ด้วย ตอนแรกผู้สนับสนุนพรรคประชาชน คาดหวังชัยชนะในสนามนี้ ไม่ใช่แค่เพราะเป็นพื้นที่เดิมของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา แต่พวกเขายังมั่นใจในความนิยมเขตเมือง เพียงแต่การเลือกตั้งซ่อมมีหลายปัจจัยที่ต่างไปจากการเลือกตั้งทั่วไป ผลเลือกตั้งที่ปรากฏ คงเป็นโจทย์ให้ทั้งสองพรรค กลับไปปรับแก้อะไรหลายอย่างได้อีก ติดตามการวิเคราะห์จาก ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส ในช่วงประจักษ์วิเคราะห์
แค่เริ่มต้นรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็ต้องเจอกับบรรดานักร้องตั้งแต่เริ่มต้น แม้จะคัดกรองคุณสมบัติด้านจริยธรรมอย่างเข้มข้น แต่ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะมีความปลอดภัย ความเสี่ยงด้านกฎหมาย ของรัฐบาลชุดนี้มีอะไรบ้าง วิเคราะห์กันต่อ รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย
แพทองธาร ชินวัตร ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ติดตามสถานการณ์แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ยืนยันสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย เร่งรัดการช่วยเหลือ ส่วนมวลน้ำก้อนใหญ่จาก 2 จังหวัดภาคเหนือ ไหลมาบรรจบภาคกลาง ทุกหน่วยงานเตรียมพื้นที่รับน้ำไว้แล้ว การันตีได้ว่า น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ เพราะปริมาณน้ำไม่มากเหมือนปี 2554