วานนี้ (27 ต.ค. 67) สำนักข่าววีทีวีของเวียดนาม เผยภาพสภาพบ้านเมืองภายในนครดานังที่เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนจ่ามี เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อิทธิพลของพายุลูกนี้ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงในหลายเมือง รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางตอนกลางของเวียดนาม โดยหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม คาดการณ์ว่าจังหวัดกว่างบิ่งห์และกว๋างนามจะมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 60 เซนติเมตรจนถึงวันจันทร์ (28 ต.ค.) รวมทั้งคาดว่า จะมีฝนตกหนักบริเวณที่ราบสูงตอนกลาง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของประเทศด้วย ขณะที่สนามบิน 4 แห่งทางตอนกลางของประเทศต้องปิดให้บริการชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนชาวประมงให้งดเดินเรือและประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (27 ต.ค. 67) พายุโซนร้อนจ่ามี เคลื่อนตัวขึ้นสู่ชายฝั่งของเวียดนามแล้ว ทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ในไทย อย่างจังหวัดนครพนม และมุกดาหารมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน และส่วนที่จังหวัดยโสธร ฝนตกกลับส่งผลดีกับนาดอนในที่กำลังขาดน้ำเลี้ยงต้นข้าว เพราะฝนไม่ตกมานานหลายสัปดาห์แล้ว
สถานการณ์ต่างประเทศ ทั้งอินเดียและฟิลิปปินส์ กำลังได้รับผลกระทบจากพายุรุนแรง โดยที่อินเดียต้องอพยพประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน หนีพายุไซโคลนที่จ่อพัดถล่มในอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่ฟิลิปปินส์ยังคงได้รับผลกระทบหนักจาก “พายุจ่ามี” ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 20 คน