5 พ.ย.ชาวอเมริกันจะได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะกำหนดอนาคตไปอีก 4 ปี ท่ามกลางผลสำรวจที่ยังสูสีจนนาทีสุดท้าย ทรัมป์เดินหน้าหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ ส่วนแฮร์ริสปักหลักที่มิชิแกนและไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย
อีกไม่กี่วันจะถึงศึกตัดสินระหว่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" กับ "คามาลา แฮร์ริส" โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ วิกฤตผู้อพยพถูกหยิบขึ้นมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองใช้โจมตีคู่ต่อสู้ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ชาวอเมริกันจะพิจารณาเพื่อเลือก "คนที่ใช่"
แม้ขณะนี้คู่ชิงจาก 2 พรรคการเมืองในสหรัฐฯ จะมีคะแนนสูสีกัน แต่เริ่มมีกระแสเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปหน่วยงานรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศของรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ โดยมุมที่ถูกพูดถึงชัดเจนจะเป็นมิติสุขภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพและลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ทีมหาเสียงทรัมป์ชี้พรรคการเมืองอังกฤษแทรกแซงเลือกตั้ง ด้านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกโรงเตือน "อีลอน มัสก์" กรณีแจกเงิน 1 ล้านเหรียญให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐบาลกลาง ขณะที่แอริโซนาเริ่มนับคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า
คามาลา แฮร์ริส สร้างสถิติใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน ตั้งแต่นั่งเก้าอี้อัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนียมาจนถึงรองประธานาธิบดี เคยรักษาการประธานาธิบดี 85 นาทีขณะที่ไบเดนส่องกล้องลำไส้ถือเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ดังกล่าว
ในบทความหนึ่งของ The New York Times ระบุว่า อนาคตของอเมริกาในอีก 4 ปี ข้างหน้า ภายในรัฐบาลของ “โดนัลด์ ทรัมป์” อาจจะเป็นสิ่งที่ทำนายไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทรัมป์จะใช้อำนาจบริหารแบบเผด็จการ โดยไม่ฝั่งเสียงของพันธมิตรบนเวทีโลก รวมถึงการเผชิญหน้ากับ “จีน” ที่จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และยังส่งผลกระทบต่อไทยด้วยเช่นกัน “เทพชัย หย่อง” พูดคุยกับ ผศ. ดร.วิบูลพงศ์ พูนประสิทธิ์ ที่ปรึกษาสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย (ASAT)
หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างชัดเจนแล้ว ผู้นำทั่วโลกต่างทยอยร่วมแสดงความยินดีต่อทรัมป์ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ร่วมยินดีกับทรัมป์ พร้อมย้ำว่า ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจีนและสหรัฐอเมริกาจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือ และจะประสบปัญหาเมื่อมีการเผชิญหน้า
“โดนัล ทรัมป์” ผู้ที่เคยประกาศว่าไม่เชื่อเรื่อง “โลกร้อน” ได้กลับคืนสู่ทำเนียบขาว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายสีเขียว ผู้เชี่ยวชาญและนักสิ่งแวดล้อม มองว่าชัยชนะของทรัมป์ อาจจะส่งผลเลวร้ายต่อโลก หากว่าไม่สนใจความพยายามในการจำกัดการร้อนขึ้นของอุณหภูมิโลก
ตามปกติในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทุก ๆ ครั้ง ปัจจัยตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งก็มักจะดูกันที่เรื่องประเด็นภายในประเทศเป็นหลัก แต่สำหรับการเลือกตั้งในรอบนี้ ประเด็นสงครามในกาซากำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นปัจจัย ที่ทำให้เดโมแครตเสียคะแนนเสียงสำคัญ ในรัฐสมรภูมิ ติดตามจากรายงานของคุณทิพย์ตะวัน ซึ่งลงพื้นที่ในเมืองเดียร์บอน ศูนย์กลางการเคลื่อนไหวสนับสนุนปาเลสไตน์ในรัฐมิชิแกน
นับถอยหลังไม่ถึง 100 วัน การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะเปิดฉาก ผู้สมัครจาก 2 พรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงชิงคะแนนกันขับเคี่ยว ด้าน "คามาลา แฮร์ริส" ตัวเต็งแคนดิเดตพรรคเดโมแครตเปิดตัวแคมเปญหาเสียงมุ่งชูประเด็นเสรีภาพในการใช้ชีวิตของชาวอเมริกัน ขณะที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" เรียกร้องให้เทคะแนนจนคว้าชัยชนะเพื่อไม่ต้องเลือกตั้งอีก 4 ปี
พูดคุยกับ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์การหาเสียงในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ต่างหาเสียงโจมตีใส่กันและกันอย่างดุเดือด หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน