ส.ว.กลุ่ม 40 ชี้คุณสมบัติประธานวุฒิสภาต้องเป็นกลางทางการเมือง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีออกตัวไม่ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยหรืออวยพรวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย พร้อมกันนั้นก็ให้สัมภาษณ์ ปฏิเสธการพิจารณาปรับ ครม.ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อขอปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีของพรรคแล้วก็ตาม แต่ระบุว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นต้องพิจารณาจากความเหมาะสมอีกครั้ง
ส่วนตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร มีความเห็นจากส.ว.กลุ่ม 40 นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เห็นว่าผู้รับหน้าที่นี้ ควรมีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่ผูกพันทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมถึงต้องมีความเสียสละเพื่อส่วนรวม
สำหรับผู้ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ ประกอบไปด้วย นายนิคม ไวยรัชพาณิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แสดงความพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกแล้ว ส่วนนายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา แม้จะยอมรับว่าได้รับการทาบทาม แต่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ
ขณะที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี แม้จะแสดงเจตนาสนับสนุนนายนิคม แต่แสดงความพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกหากได้รับการเสนอชื่อ ส่วน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานครออกมาเปิดเผยว่า ไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่ง โดยอ้างอิงถึงภารกิจงานด้านปิโตรเลียม
มีรายงานว่าในวุฒิสภา มีการแบ่งกลุ่ม ส.ว.ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 40 ส.ว. มีเสียงไม่น้อยกว่า 40 เสียง แต่มีแนวทางคล้ายจะคัดค้านรัฐบาล และเน้นการตรวจสอบ ขณะที่กลุ่มเห็นต่างจาก 40 ส.ว. มีเสียงไม่ต่างจากกลุ่มแรก แต่มีท่าทีหรือแนวทางที่ต่างกันชัดเจน คือสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกลุ่มสุดท้ายจะวางตัวเป็นกลางๆ จะมีเสียงประมาณ 50 - 60 เสียง