พรรคร่วมรัฐบาลชะลอลงมติวาระ 3 ร่างแก้ รธน.
กรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคการเมืองฝ่ายค้านในช่วงประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไปนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความพร้อมที่จะทำหน้าที่อภิปรายชี้แจงทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่านับจากนี้ไปจะไม่ตัดสินใจปรับ ครม.ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีขึ้น
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สรุปญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล โดยมีรายงานว่าแนวทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านในช่วงเดือนสิงหาคม จะเป็นการคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ และร่างกฎหมายปรองดอง และน่าจะเป็นกลางเดือนกันยายนที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจปรับ ครม.อีกครั้งในเดือนตุลาคม
สำหรับการหารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อสรุปแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยข้อสรุปตรงกันที่จะชะลอการลงมติร่างแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไว้ก่อน และเห็นชอบตั้งคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบ พร้อมกันนั้น มอบหมายให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลร่วมรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะเจตนาที่รัฐบาลจะธำรงรักษาความเป็นธรรม และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
แต่มีรายงานว่าแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกัน คือการเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยการแก้รายมาตรา และต้องเป็นมติเห็นชอบร่วมกันของรัฐสภา เพื่อขับเคลื่อนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนทิศทางการเมืองนับจากนี้ พรรคร่วมรัฐบาลยอมรับตรงกันในยุทธศาสตร์กระชับอำนาจฝ่ายบริหาร ขณะเดียวกัน ต้องสร้างความชอบธรรมด้วยการกล่าวหา และดำเนินคดีกับบุคคลในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
โดยในรายละเอียดมีรายงานว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว ที่จะคงเจตนาของการสร้างประชาธิปไตยด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ และเสนอร่างกฎหมายปรองดอง แต่ในทางปฏิบัติ อาจต้องถอยหลัง และเดินหน้าเป็นจังหวะ โดยยึดโยงกับสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมือง และเสถียรภาพของรัฐบาล ทั้งนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณยังไม่รีบกลับไทย ด้วยคำพูดที่ว่า "อยู่เมืองนอกดีกว่ากลับบ้านมือเปล่า"