มณฑลชานตงของจีนเผชิญภัยแล้งหนักสุดในรอบ 100 ปี
ฝนแล้งในมณฑลชานตงทางตะวันออกของจีน ทำให้เกิดภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของมณฑล ผู้คนเกือบ 250,000 คนเผชิญกับการขาดแคลนน้ำดื่ม
พื้นที่ทางตอนเหนือ ตอนกลางและทางตะวันออกของจีน เผชิญกับความแห้งแล้งมานานกว่า 3 เดือน เพราะฝนทิ้งช่วงประกอบกับสภาพแวดล้อมในช่วงฤดูหนาว ทำให้อ่างเก็บน้ำในหลายพื้นที่ของมณฑลชานตงมีระดับน้ำลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนเกือบ 250,000 คนขาดแคลนน้ำดื่ม โดยและอาจเพิ่มเป็น 300,000 คน ขณะที่ทางการต้องนำรถดับเพลิงมาใช้ขนส่งน้ำไปยังพื้นที่ต่างๆ
ขณะนี้ภัยแล้งได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกทางเหนือของประเทศแล้วร้อยละ 17 คาดว่าจะส่งผลกระทบไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ทางการกำลังรณรงค์ต่อต้านการขึ้นราคาอาหารซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของจีนเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ อากาศที่หนาวจัดทำให้ผิวน้ำในทะเลตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของจีนจับตัวเป็นน้ำแข็งครอบคลุมพื้นที่ราว 34,000 ตารางกิโลเมตร ทำให้เรือใหญ่เคลื่อนที่ได้ช้าลง ขณะที่เรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่ง
ส่วนที่เมืองเป่ยชวนแห่งใหม่ ในมณฑลเสฉวนของจีน พร้อมต้อนรับการเข้ามาอยู่อาศัยของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อปี 2551 แล้ว หลังทางการใช้เวลาก่อสร้างเมืองใหม่ 2 ปี คาดว่าครอบครัวผู้ประสบภัยร้อยละ 95 จากจำนวนเกือบ 7,400 ครอบครัวจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ก่อนเทศกาลตรุษจีนโดยเมืองใหม่มีห้องชุดราว 11,000 ห้อง เพียงพอสำหรับผู้ประสบภัยราว 12,000 คนที่ยังคงพักอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราวในขณะนี้
ขณะที่เมืองเป่ยชวนแห่งเดิม ทางการได้อนุรักษ์ไว้และจะเปิดเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปี 2551 โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤษภาคม ปีนี้ แต่ได้เปิดให้คนเข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมปีที่แล้ว โดยขณะนี้มียอดผู้เข้าชมที่ 150,000 คน