ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

มาตรการ "เคอร์ฟิว" อาจเป็นเงื่อนไขปลุกระดมมวลชนของผู้ก่อเหตุรุนแรง

3 ส.ค. 55
14:45
17
Logo Thai PBS
มาตรการ "เคอร์ฟิว" อาจเป็นเงื่อนไขปลุกระดมมวลชนของผู้ก่อเหตุรุนแรง

เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดสินใจ นำมาตรการจัดพื้นที่เซฟตี้โซน มาใช้ในเขตเมืองปัตตานี แม้ว่าจะเกิดเหตุระเบิดขึ้น หลังโรงแรมซีเอส เมื่อวันที่ 31 กรกรฎาคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวน เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะภาพวงจรปิด สามารถบันทึกวินาทีที่คนร้ายนำรถยนต์ประกอบระเบิดมาจอดได้

<"">
<"">

โดยภาพวงจรปิดบริเวณสี่แยกหอนาฬิกา สามารถบันทึกวินาทีที่คนร้ายนำรถยนต์กะบะ ป้ายทะเบียน ธล 8099 กทม วิ่งผ่านสี่แยกหอนาฬิกา ก่อนจะเลี้ยวอ้อมไปด้านหลังของโรงแรมซีเอส หลังจากนั้น ผู้ต้องสงสัยสวมเสื้อสีขาว ขับรถจักรยานยนต์ตามมาเพื่อรับตัวผู้ขับขี่รถประกอบระเบิด ถัดมาไม่ถึง 20 นาทีเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ซึ่งจากหลักฐานที่รวบรวมทั้งหมด พร้อมการสอบพยานบุคคล ทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในสับดาห์หน้า ซึ่งเชื่อว่า เป็นกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ และนายอาบิน คาเล็ง แนวร่วมกลุ่มอาร์เคเคชุดวางระเบิด

เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับโรงแรมซีเอส ปัตตานี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่พักที่ปลอดภัยที่สุด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการดูแลพื้นที่ในเขตเมืองอย่างเข้มข้น ทั้งการตั้งด่านตรวจถาวร บนถนนทุกเส้น ที่เชื่อมต่อจากอำเภอต่าง ๆ เข้าสู่ตัวเมือง และบันทึกข้อมูลของรถเกือบทุกคัน พร้อมเฝ้าระวังรถยนต์ต้องสงสัย 7 - 8 คันที่เจ้าของถูกฆ่าชิงทรัพย์และอาจถูกนำมาประกอบระเบิดซ้ำ รวมถึงจัดกำลังคุ้มกันพื้นที่ล่อแหลม เช่นตลาด แหล่งชุมชน สถานที่ราชการ และสถานประกอบการสำคัญ

แต่แม้ว่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตเมืองอย่างเข้มข้น แต่ชาวบ้านหลายคนบอกว่า ยังไม่มั่นใจมากนัก เพราะพื้นที่ตัวเมืองมีผู้คนมากมายจึงยากที่จะตรวจสอบ สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องระวังตัวเอง

นอกจากการการเฝ้าระวัง สกัดกั้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์แล้ว ทางจังหวัดปัตตานี และเทศบาลเมืองปัตตานีเตรียมของบประมาณเพิ่มเติมในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มในจุดที่อ่อนไหว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวคิดที่จะจัดพื้นที่เซฟตี้โซนในเขตเมืองปัตตานี เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อประชาชน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง