ฟังต่างเพลงกล่อมมาตั้งแต่เกิด จนจำเนื้อร้องได้ขึ้นใจ ตายแน่หรือหนาวนี้ เพลงดังที่ยายเคยบันทึกเสียงไว้เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน กลายเป็นเพลงโปรดของหลานวัย 7 ขวบ ในวันที่ รุ่งนภา ดารากุล อดีตนักร้องเพลงลูกทุ่งและศิษย์สุรพล สมบัติเจริญ ป่วยหนัก มีเพียงหลานสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดคอยดูแลและเป็นกำลังใจในยามท้อ
รายได้ที่เคยมีจากอาชีพนวดแผนโบราณหลังผันตัวออกจากวงการเพลงลูกทุ่ง ต้องเลิกไปเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะโรครุมเร้า ทั้งเบาหวาน ไขมันในเส้นเลือดและความดันโลหิตสูง เงินที่มีจึงเป็นเพียงเบี้ยยังชีพคนชราและน้ำใจจากเพื่อนในวงการเพลง ร่างกายที่แทบไร้เรี่ยวแรง มีเพียงสองมือเล็กๆของหลานสาวคอยช่วยพยุงดูแลยามป่วยไข้และช่วยงานบ้าน
รุ่งนภา ดารากุล อดีตนักร้องลูกทุ่ง กล่าวว่า "อยู่กับหลานสาว 2 คน เราช่วยกัน เขาช่วยทำงานบ้าน แต่ไม่มีแรงมาก เด็กแรงน้อย ทำอะไรได้ไม่มาก เขาชอบร้องเพลง ฟังเพลงของเราแล้วก็ร้อง แต่ร้องแบบไม่รู้เรื่องอะไร" ขณะที่ นภาวัลย์ พิมขำ ผู้เป็นหลานสาว กล่าวว่า "เป็นห่วงยาย ช่วยยายทำงานบ้าน ดูแลยาย หายาให้กิน และภูมิใจยายเป็นนักร้อง ชอบเพลงของยาย"
ภาพขาวดำหายากเก่ากว่า 50 ปี เป็นสมบัติล้ำค่าอีกชิ้นของรุ่งนภา ดารากุล ที่ไม่เพียงเป็นภาพบันทึกการเป็นนักร้องดังในอดีต แต่ยังเป็นความสุขทุกครั้งที่ได้ดูภาพความทรงจำเหล่านี้
ภาพเก่าถ่ายร่วมกับเพื่อนในวงสุรพล สมบัติเจริญ เมื่อแรกเข้าวงการเพลงในวัย 19 ปี จนถึงภาพเดี่ยวเมื่อครั้งมีชื่อเสียงในฐานะนักร้องลูกทุ่งหญิงร้องเพลงแก้กับ สุรพล และที่หวงที่สุด คือ ภาพของครูผู้ให้โอกาสที่เหลืออยู่เพียงใบสุดท้าย
ภาพครั้งเดินสายร้องเพลงยังคงชัดเจนในความทรงจำของอดีตนักร้องวัย 70 ปี อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจากการเดินทางแสดง ทำให้ รุ่งนภา ตัดสินใจหันหลังในวงการเพลงลูกทุ่ง ไปฝึกเรียนนวดแผนโบราณและยึดเป็นอาชีพนานร่วม 20 ปี หากเรื่องราวและความสุขที่เคยได้รับจากอาชีพที่รัก ยังคงเรียกรอยยิ้มทุกครั้งที่นึกถึงและคุณของครูสุรพล ที่สร้างชื่อ รุ่งนภา ดารากุล ให้เป็นที่รู้จักของแฟนเพลง
"ครูมีบุญคุณมากๆ ให้โอกาสเรา ครูจะเป็นคนเฮี้ยบๆ ไม่ค่อยพูด ทุกคนจะกลัวหมด แต่จริงๆแล้วแกใจดี แต่แกจะเป็นคนมีระเบียบ" รุ่งนภา ดารากุล อดีตนักร้องลูกทุ่งกล่าว
ช่วยระบายสีและทำการบ้าน คือ ภารกิจทุกเย็นหลังเลิกเรียนของยาย-หลาน ความสุขที่ได้ดูแลกันทำให้ห้องพักเล็กๆ ไม่เงียบเหงา ด้วยหวังเห็นอนาคตหลาน ทำให้ยายมีกำลังใจสู้ต่อและพยายามไม่ท้อ แม้รู้ดีว่าหนทางข้างหน้าไม่ง่ายนักที่จะก้าวเดิน