กิจกรรมครบรอบ 35 ปี การจากไปของ เอลวิส เพรสลีย์
แฟนเพลงกว่า 80,000 คนมารวมตัวกันที่คฤหาสถ์เกรซแลนด์เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 1977 เพื่อร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับ เอลวิส เพรสลีย์ นักร้องคนดังที่เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 42 ปีเมื่อ 2 วันก่อน ที่จากไปอย่างกะทันหัน และสร้างความตกใจต่อสาธารณะชน บางรายเพิ่งซื้อตั๋วคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นสุดสัปดาห์ถัดมา หลายคนนำพวงหรีดมาประดับไว้ที่คฤหาสถ์เกรซแลนด์เพื่อร่วมไว้อาลัย ผ่านมาแล้ว 35 ปี บรรยากาศนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อยังมีแฟนเพลงทั่วโลกเดินทางเยี่ยมเยือนบ้านพักที่เอลวิสซื้อไว้ให้แม่ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่ฝังร่างของเขาเคียงข้างกับแม่ตลอดกาล
เส้นทางดนตรีของเอลวิสเกิดขึ้นได้เพราะมีแม่เป็นแรงบันดาลใจ และเมื่อเพลงที่ตั้งใจร้องเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับแม่ไปเข้าตา แซม ฟิลลิป เจ้าของค่ายเพลง ซึ่งกำลังมองหานักร้องผิวขาวที่สามารถร้องเพลงสไตล์ชาวผิวสี เพื่อขยายตลาดดนตรีให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
เพราะเติบโตในเมืองทางตอนใต้ของสหรัฐฯ จึงทำให้เอลวิสสามารถร้องเพลงได้หลากหลาย ทั้งแนว บัลลาด กอสเปล และบูลส์ ความสามารถเหล่านั้นล้วนสร้างเอกลักษณ์ให้กับเอลวิส จนส่งให้ดนตรีร็อกแอนด์โรล์โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นผู้นำของร็อกเกอร์ทั้งผิวขาว และผิวดำ ทั้งรุ่นก่อน และรุ่นหลังได้รับความนิยมในวงกว้าง ขณะที่ภาพลักษณ์การเป็นเซ็กซ์ซิมโบลระหว่างการแสดง ยังเป็นต้นแบบให้กับนักร้องรุ่นหลังอีกนับไม่ถ้วน จนเป็นที่มาของฉายา เดอะ คิง หรือราชาแห่งร็อกแอนด์โรลล์
เอลวิสยังเป็นนักร้องคนแรกๆ ที่ทำให้วงการเพลงมองเห็นศักยภาพในการทำการตลาดกับกลุ่มวัยรุ่น ความนิยมในการฟังเพลงร็อคแอนด์โรลด้วยวิทยุขนาดเล็กภายในห้องนอนของเหล่าสาว น้อยที่เพิ่มขึ้น การแต่งตัว และทำทรงผมเลียนแบบเอลวิสของวัยรุ่นชาย ตลอดจนการสร้างภาพยนตร์ที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้ชมหลากหลายวัย ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความโด่งดังที่เอลวิสสร้างเอาไว้ตั้งแต่ยุค 50
ในวาระครบรอบ 35 ปีการจากไปของ เอลวิส เพรสลีย์ ในเมืองเมมฟิส มีการจัดงานสัปดาห์แห่งเอลวิส ที่แฟนเพลงทั่วโลกจะมาร่วมกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่แข่งขันกีฬา สนทนากับผู้ประพันธ์เพลงดัง และที่ขาดไม่ได้คือการแสดงของบรรดา Elvis Tribute Artist หรือศิลปินที่อุทิศการแสดงเพื่อถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของราชาร็อกแอนด์โรล์ให้ สืบทอดไปสู่ผู้ฟังรุ่นต่อไป