อิทธิพลของพายุไคตั๊กส่งผลให้ฝนตกในหลายพื้นที่-กรมเจ้าท่าเพิ่มเครื่องจักรขุดลอกแม่น้ำน่าน
อิทธิพลของพายุไคตั๊กส่งผลให้ฝนตกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ขณะที่กรมเจ้าท่าต้องเพิ่มเครื่องจักร เข้าขุดลอกแม่น้ำน่านเพิ่มเป็น 2 เท่า เพื่อให้ทันฤดูน้ำหลาก
โดยบริษัทเอกชนผู้รับเหมางานจากกรมเจ้าท่า ได้ขุดลอกแม่น้ำน่าน ที่บริเวณริมแม่น้ำน่าน บ้านตะพานหิน ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยเพิ่มจำนวนเครื่องจักรเป็น 2 เท่า ขณะที่นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้กรมเจ้าท่าเสริมแนวป้องกันตลิ่งด้วยการใช้หินทิ้ง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ส่วนชาวบ้านในต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ติดตั้งอวนล้อมบ่อปลาที่เพาะเลี้ยงปลากว่า 4,000 ตัว เพื่อป้องกันความเสียหาย เนื่องจากพื้นที่ตำบลรังนกเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี เช่นเดียวกับชาวนาในต.มหาโพธิ์ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ลงทุนว่าจ้างเครื่องจักรขุดร่องน้ำรอบที่นาเนื้อที่กว่าร้อยไร่ของตัวเอง เพื่อป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนัก และน้ำไหลหลาก
ขณะที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ชลประทานยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภายในอ่าง เนื่องจากเริ่มมีฝนตกลงมาในพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน เข้าท่วมเขตตัวเมืองแม่สอดซ้ำอีก ด้านเจ้าหน้าที่ประจำฝายยโสธร-พนมไพร ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร เปิดประตูฝายทั้ง 8 บานเร่งระบายน้ำ เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสมทบ ป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำชีไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของประชาชน หลังได้รับอิทธิพลจากพายุไคตั๊ก ทำให้มีฝนตกเกือบทุกพื้นที่จนระดับน้ำในฝายเพิ่มที่ 123 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บที่ 126 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนชาวนาในต.โพนข่า อ.เมืองศรีสะเกษ เร่งต่อท่อส่งน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากนาข้าว ป้องกันน้ำท่วมนาหลังเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลมารวมกัน ท่วมต้นข้าวแล้วบางส่วน ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวเชิงเขาและทางน้ำไหล เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ หลังอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนให้เฝ้าระวังฝนตกหนักในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วง 1 ถึง 2 วันนี้