ข้าราชการ-ชาวบ้านบางส่วนใน จ.ปัตตานี ไม่เห็นด้วยกรณีหยุดงานในวันศุกร์
คนงานที่เร่งซ่อมแซมร้านทองกมลพรรณ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่ถูกคนร้ายกราดยิงก่อน จะจุดฉนวนระเบิดในรถยนต์เมื่อสับดาห์ก่อน เป็นเพียงคนงานกลุ่มเดียวที่ยังคงทำงานในวันศุกร์ ขณะที่ทุกร้านในเมืองสายบุรี ต่างปิดร้านเพราะความหวาดกลัวในคำขู่ของแนวร่วมที่ก่อเหตุระเบิดใน อ.สายุบรี
ลุงจ่วน จันทนทรัพย์ที่สูญเสียลูกชาย และร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ บอกว่า ปรากฏการณ์ปิดร้านที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้ทั้งคนไทยพุทธ และมุสลิมซึ่งไม่สามารถค้าขายหรือทำมาหากินตามปกติได้ และหากยังเป็นเช่นนี้ความศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ก็ย่อมลดลงเช่นกัน
"เมื่อไม่สามารถชนะใจ ก็ต้องควบคุมมวลชนด้วยความหวาดกลัว” เป็นหนึ่งในปรัชญาในการทำสงครามแย่งชิงมวลชน ที่ถูกวิเคราะห์จากหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า แนวร่วมเลือกใช้วิธีสร้างความหวาดกลัวเพื่อกดขี่ประชาชน และยังต้องการแสดงศักยภาพท้าทายรัฐ ว่าสามารถคุ้มพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ
แต่สำหรับนักวิชาการ กลับมองว่า รัฐสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะเมื่อแนวทำให้ประชาชนกลัว เมื่อถึงจุดหนึ่ง ความกลัว ก็จะผลักประชาชนหันมาร่วมมือกับรัฐ และรัฐจะต้องไม่มองว่าการปิดร้านวันศุกร์ เป็นการแสดงออกของประชาชนต่อการยอมรับในอำนาจมืดแนวร่วม เพราะจะทำให้หลงกล และแพ้ในสงครามจิตวิทยาครั้งนี้
สิ่งหนึ่งที่น่ากังวลจากปรากฎการณ์หยุดงานในวันศุกร์ คือ เสียงเรียกร้องจากข้าราชการบางส่วนที่ ต้องการให้วันศุกร์กลายเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งถือว่า ผิดระเบียบ และข้าราชการในฐานะตัวแทนอำนาจรัฐ ก็ต้องเป็นแบบอย่าง ที่กล้าหาญไม่หวาดกลัวอำนาจของฝ่ายตรงกันข้าม เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน
นอกจากนี้นักวิชาการเห็นว่า การทำงานในวันศุกร์ ก็มิได้ขัดกับการประกอบศาสนากิจ เพราะแม้แต่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ ก็มีเพียงรัฐกลันตัน และตรังกานูเท่านั้น ที่หยุดงานในวันศุกร์ และเสาร์ ที่เหลือทั่วประเทศหยุดงานในวันเสาร์ และอาทิตย์เหมือนประเทศมุสลิมอื่นๆ ทั่วโลก