นาข้าวในหลายจังหวัดยืนต้นตายเหตุแล้งจัด

สถานการณ์ภัยแล้งในภาคอีสานเริ่มรุนแรงมากขึ้น โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บขนาดน้ำหลายแห่งลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องระงับการปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร ส่งผลให้นาข้าวในหลายจังหวัดยืนต้นตายจากภาวะฝนทิ้งช่วง

นาข้าวหอมมะลิในอำเภอเมืองสรวง และอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด กว่า 150,000 ไร่ มีสภาพแห้งตายจากภาวะฝนทิ้งช่วง ชาวนาบางคนต้องนำเครื่องสูบน้ำ เพื่อผันน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว ขณะที่จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ 2 อำเภอประสบภัยแล้ง เช่นเดียวกับนาข้าวในจังหวัดนครราชสีมา ที่เริ่มยืนต้นตายจากภาวะฝนทิ้งช่วง ล่าสุดสำนักงานเกษตรจังหวัด เตรียมประกาศให้ 6 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกหอมมะลิแหล่งใหญ่ของจังหวัด ซึ่งเสียหายแล้วกว่า 270,000 ไร่

ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติ มีปริมาณการกักเก็บเพียง 420 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 20 ของความจุอ่าง ทำให้เขื่อนต้องงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรกรในเขตชลประทานกว่า 350,000 ไร่ รวมทั้งกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่ต้องหยุดเลี้ยงกุ้งรอบใหม่เพื่อลดการขาดทุน เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีปริมาณกักเก็บเหลือเพียงร้อยละ 33 ของความจุอ่าง ทำให้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้ เขื่อนจะงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อกักเก็บน้ำ สำหรับการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง พร้อมแจ้งเตือนชาวนางดทำนาปรัง