พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยแสดงจุดยืนในการชุมนุม เพื่อสะท้อนปัญหาของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย 3 ประเด็น คือ เป็นรัฐบาลนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ละเลยการจาบจ้วงสถาบัน และ การทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาล ซึ่งพล.อ.บุญเลิศได้นัดหมายชุมนุมครั้งต่อไปในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ขณะที่นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ระบุสัปดาห์หน้าจะหารือกรอบเวลาและเงื่อนไขเพื่อให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนบทบาท ก่อนเปลี่ยนเป็นข้อเสนอให้ลาออกขณะที่วิทยากรผู้ร่วมปราศรัยอาทิ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวยืนยันถึงสิทธิการชุมนุมทวงคืนอำนาจประชาชน หลังบ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤต 5 ด้าน คือ วิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดจากผลของนโยบายประชานิยม วิกฤตสังคม ที่ขาดความปรองดองสมานฉันท์ วิกฤตความมั่นคง เนื่องจากตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน วิกฤตการบังคับใช้กฎหมาย ที่ไม่มีนิติรัฐและนิติธรรม สุดท้ายคือ วิกฤตภาวะผู้นำที่หาได้ยาก
นายต่อตระกูล ยมนาค ปราศรัยหยิบยกกรณีปัญหาการทุจริตงบฯน้ำท่วม และชี้ว่า จัดสรรงบประมาณเพื่อเตรียมพร้อมรับมือแบบไร้ประสิทธิภาพ และการดำเนินโครงการมีข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง
นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ปราศรัยเปิดเผยผลศึกษาทางวิชาการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว พบว่า เป็นเพียงกลยุทธ์หลอกลวงทางการเมืองเพราะเม็ดเงินตามโครงการ ไม่ได้ถึงมือเกษตรกร หรือ ชาวนาอย่างแท้จริง แต่กลับไปตกอยู่กับคนกลางและคนทุจริตสวมสิทธิ์ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและคนใกล้ชิด
สำหรับภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามวานนี้ ( 28 ต.ค.) แยกย่อยออกไปมากเกือบ 30 กลุ่ม อาทิ กลุ่มกองทัพธรรม กลุ่มที่สนับสนุนพันธมิตร กลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มสยามสามัคคี และ ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. นอกจากนั้นมีส.ส.และส.ว.บางคนเข้าร่วมทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัว