ลิขสิทธิ์กีฬาตัวแปรสำคัญของการแข่งขันทางธุรกิจทีวีในอนาคต
ปีที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกซึ่งมีมูลค่าเพียง 1,500 ล้านบาท แต่ล่าสุดบริษัทเคเบิ้ล ทีวี โฮลดิ้ง หรือซีทีเอชลงทุนเกือบ 10,000 ล้านบาท สะท้อนการแข่งขันที่เข้มข้นในกลุ่มธุรกิจเปย์ ทีวี ซึ่งต้องจ่ายเงินในการรับชม แม้ว่าจะเป็นตัวเลขมหาศาลในการประมูลครั้งนี้แต่มีการวิเคราะห์ว่าซีทีเอช อาจจะไม่ขาดทุนเพราะหากตั้งเป้าผู้ชม 7,000,000 ครัวเรือนในอีก 3 ปีข้างหน้าซึ่งหากต้องจ่ายค่าบริการเฉลี่ยเดือนละ 300 บาท บวกกับแผนการตลาดที่อาจจะเปลี่ยนระบบการรับชมแบบสัญญาณอนาล็อคเป็นดิจิตอลและมีผลให้ผู้ชมเปลี่ยนมาซื้อกล่องรับชม บวกกับการมีพันธมิตรเข้ามาขอร่วมซื้อลิขสิทธิ์ซึ่งล่าสุดมีแล้ว 3 ราย รวมถึงจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ก็อาจจะมีกำไรเลยจุดคุ้มทุน
อย่างไรก็ตามลิขสิทธิ์ครั้งนี้ยังเป็นเพียงการประมูลกระดาษเปล่ายังไม่ได้มีการทำสัญญาและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับพรีเมียร์ลีก ซึ่งภายใน 4-6 สัปดาห์ซีทีเอชต้องจ่ายเงินก้อนแรก และ ภายในเวลา 3 เดือนต้องจ่ายเงินอีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000ล้านบาท
หลังการเข้ามาจัดสรรคลื่นความถี่ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ทำให้ผู้ให้บริการเปย์ทีวีไม่สามารถผูกขาดรายการหรือลิขสิทธิ์ได้เพียงเจ้าเดียวอีกต่อไป ส่งผลให้มีการแข่งขันในการปรับปรุงและซื้อเนื้อหารายการเพื่อให้เกิดประโยชน์และดึงดูดผู้ชมหรือสมาชิกมากที่สุด