อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 2 วันนี้ เน้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเป็นคนแรก ได้เปิดคลิปเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหาร เพื่อชี้ถึงพฤติการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกับอภิปรายอ้างอิงข้อกฎหมาย และชี้ว่า รัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและแสวงหาประโยชน์ทางการเมือง เลือกแต่งตั้งพวกพ้อง กรณีแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล ย้ำในกระบวนการที่เป็นไปตามกฎหมายและใช้อำนาจโดยชอบในการแต่งตั้งพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน และไม่สามารถแต่งตั้งตั้งพล.อ.ชาตรี ทัตติ ตามที่พลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์เสนอได้ เพราะคุณสมบัติไม่เหมาะสม
ขณะที่การอภิปรายคู่แรกระหว่าง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในประเด็นที่ร.ต.อ.เฉลิม มีพฤติกรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ถอดยศตำรวจ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ตามระเบียบสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ระบุชัดเจนว่า นายตำรวจที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดต้องถูกถอดยศ ขณะเดียวกันยังพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ด้วย ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายโต้แย้งว่า ไม่มีอำนาจเรื่องการถอดยศ เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
ส่วนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย อภิปรายร.ต.อ.เฉลิม พร้อมเปิดคลิป โดยมีสาระสำคัญ คือการชี้ให้เห็นถึงการปล่อยปะละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนัน โดยเฉพาะย่านรัชดาภิเษก การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่กำจัดบ่อนการพนันและกิจการค้ามนุษย์
ส่วนการอภิปรายพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยนายถาวรเสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พลตำรวจโทชัจจ์ บอกว่า ไม่รู้เห็นเรื่องการทุจริตหักค่าหัวคิวในโครงการจัดจ้างขุดลองคูคลองในพื้นที่ตื่นเขิน 7 ล่องน้ำ
หลังนายถาวร อภิปรายโดยชี้ให้เห็นว่า โครงการจัดซื้อจัดจ้างการขุดลองคูคลองในพื้นที่ตื้นเขิน 1,200 ล้านบาทของกระทรวงคมนาคมนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายกระทำผิดพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างหรือฮั้วเพราะวิธีการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ มีการเอื้อประโยชน์ต่อภาคเอกชนที่เข้ามาดำเนินโครงการ ใน 26 ชิ้นงาน ด้วยการตั้งราคากลางสูงเกินจริงเกือบร้อยละ 40 และเกินกว่าวงเงินงบประมาณที่มีอยู่
การอภิปราย ยังเป็นการอภิปรายพลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยนายนคร มาฉิม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ทำผิดกฎหมายการรถไฟของประเทศไทย มาตรา 37 และกฎหมายคุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจ กรณี แต่งตั้งนายประภัสร์ จงสงวน เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ขาดคุณสมบัติและเชื่อมโยงถึงการให้คนใกล้ชิดเข้าร่วมงาน แต่การอภิปรายเกิดการท้วงติงขึ้น ว่าเนื้อหาดังกล่าวไม่ได้อยู่ในญัตติ ทำให้เกิดการประท้วงกัน นานกว่า 10 นาที นายนคร จึงยอมถอนการอภิปรายออกไปทั้งหมด ทำให้นายเจริญ สรุปว่า เรื่องดังกล่าวที่นายนครอภิปรายมาเป็นอันยุติทั้งหมด จะไม่มีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ขณะที่เมื่อคืนนี้ ปิดท้ายด้วยการอภิปราย พล.ต.ท.ชัจจ์ โดยนายอรรถวิชญ์ สุวรรณภักดี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายเรื่องการบริหารจัดการตลาดนัดสวนจตุจักร โดยตั้งข้อสังเกตว่าการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษให้กับบริษัทเอกชน เชื่อมโยงกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงการบริหารงานที่ผิดพลาด โดยพลตำรวจโทชัจจ์ ชี้แจงว่าเป็นสัญญาระยะเวลาสั้นๆ และสามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาได้หากดำเนินการไม่ดี
หลังเสร็จสิ้นการชี้แจง ประธานสภาได้สั่งพักการประชุม และจะประชุมต่อในวันนี้ เวลา 09.30 น. เนื่องจากหมดจำนวนผู้อภิปราย ขณะที่ประเด็นการอภิปรายในวันนี้ (26 พ.ย.) คาดการณ์ว่าประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะถูกอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ด้วยเหตุของการบริหารราชการที่บกพร่องผิดพลาด ไม่ตรงไปตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา รวมถึงการอภิปรายความไม่ชอบมาพากลในโครงการรับจำนำข้าว ,รับจำนำพืชผลทางการเกษตร,กรณีปัญหาข้าวยากหมากแพง นโยบายรถคันแรกที่กระทบการจราจร กรณีปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมและเชื่อมต่อไปถึงกรณีทุจริตงบประมาณน้ำท่วม ก่อนจะอภิปรายชี้ถึงภาวะผู้นำ ในบทบาทของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร