พรรคการเมืองร่วมตอบโจทย์สื่อปฏิรูปประเทศ
ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนาได้นำเสนอนโยบาย และตอบคำถามจากสื่อมวลชนหลายประเด็น ส่วนนโยบายการสร้างความปรองดองนั้น พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ความปรองดองควรเกิดจากความยินยอมของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้สูญเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ความขัดแย้ง ให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กลับเห็นว่าคณะกรรมการปรองดองฯ ควรมาจากคนนอก ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มากกว่า แต่สิ่งสำคัญที่จะลดความขัดแย้ง ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นด้วยกับแนวทางของสองพรรค แต่อยากเห็นการลดความขัดแย้งด้วยการที่พรรคใหญ่ออกมายอมรับผลการเลือกตั้ง
ส่วนนโยบายสุขภาพแห่งชาตินั้นทั้ง 3 พรรคเห็นว่า ควรรวมระบบหลักประกันสุขภาพของประชาชน ทั้งระบบประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง และข้าราชการให้เป็นระบบเดียวกัน ซึ่งตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ต่างก็เห็นด้วย เพราะต้องการให้สวัสดิการด้านสุขภาพของประชาชน มีความเท่าเทียมกัน
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันข้ามว่า การรวมระบบหลักประกันสุขภาพของประชาชน ควรมีการสำรวจความยินยอมจากบุคคลต่างๆ ซึ่งมีสิทธิ์อยู่ในแต่ละระบบก่อน แต่ปัญหาด้านสุขภาพของคนไทยที่เร่งด่วนที่สุดในขณะนี้ คือการปรับปรุงมาตรฐานในการดูแลและการให้การรักษา รวมถึงการเข้าถึงระบบประกันสุขภาพมากกว่า
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังเน้นการแก้ปัญหาเรื่อง 2 มาตรฐาน ความเท่าเทียมของสิทธิระหว่างคนจนกับคนรวย ปรับปรุงขบวนการยุติธรรม และต่อต้านการปฏิวัติ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปที่ดินทำกินเพื่อเกษตรกรรม เช่น โฉนดชุมชน และการเปิดเผยการถือครองที่ดิน
ขณะที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเน้นนโยบายการปฏิรูปพลังงาน ในงานนี้ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนปฏิเสธกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนาจะชักชวนเข้าร่วมจับขั้วทางการเมือง เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่หากมีการจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคภูมิใจไทยและเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นเรื่องของพรรคใหญ่ ซึ่งไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก็ร่วมงานได้ เพราะเคยร่วมงานกับทั้ง 2 พรรค
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แนวคิดการรวมตัวกันของพรรคระดับกลางเป็นแนวคิดที่ไม่เคารพระบบประชาธิปไตยและเสียงของประชาชน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลนั้น จะต้องมาดูว่าผลคะแนนหลังการเลือกตั้งว่าจะออกมาเป็นรูปแบบใด