ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เพื่อไทย" ปกป้อง "ทักษิณ" กรณีปรากฏตัวช่อง 11 ระบุไม่รู้ล่วงหน้า

การเมือง
10 ธ.ค. 55
14:19
356
Logo Thai PBS
"เพื่อไทย" ปกป้อง  "ทักษิณ" กรณีปรากฏตัวช่อง 11 ระบุไม่รู้ล่วงหน้า

พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือกลุ่มกรีน เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้หลบหนีคดีในต่างประเทศ ปรากฏตัวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย มีผลให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ฝ่ายบริหารไปจนถึงฝ่ายปฏิบัติ ละเว้นและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขณะที่พรรคเพื่อไทย แถลงปฏิเสธบุคคลในรัฐบาล พรรคเพื่อไทย หรือกรมประชาสัมพันธ์ รับรู้ล่วงหน้า หรือเตรียมการไว้ให้ พร้อมระบุเป็นการเชิญชวนและจัดขึ้นโดยภาคเอกชน

การปรากฏตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้หลบหนีคดีในต่างประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือ ช่อง 11 ในฐานะเป็นประธานเปิดการแข่งขันศึกมวยไทย วอริเออร์ส เทิดไท้องค์ราชันย์ ซึ่งจัดขึ้นที่ มาเก๊าฟิชเชอร์แมนวอล์ค เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และยังใช้โอกาสนี้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปฏิเสธพฤติกรรมจวบจ้วงสถาบันตามคลิปเสียงที่ถูกอ้างถึง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธว่า บุคคลภายในพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาล หรือแม้แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตร ไม่ได้รับรู้ล่วงหน้า ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าร่วมเป็นประธาน แต่ยืนยันว่าน่า จะเป็นเจตนาที่จะแสดงความจงรักภักดี และเป็นไปตามคำเชิญชวนของภาคเอกชน จึงไม่มีการแทรกแซง หรือมีคำสั่งการใดๆ ไปยังช่อง 11

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบกับการปล่อยปะละเลยให้ผู้หลบหนีคดีในต่างประเทศร่วมรายการ และนำเสนอผ่านช่อง 11 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมากล่าวอ้างแก้ตัวหรือบิดเบือนประเด็นว่าเกิดจากผู้จัดที่ทำสัญญาเช่าเวลา

ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เตรียมยื่นเรื่องกล่าวโทษนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอธิดบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้อำนวยการสถานี ต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนเอาผิด เพราะเชื่อว่า เป็นการสมรู้ร่วมคิดของฝ่ายการเมืองกับผู้บริหารช่อง 11 ที่ให้โอกาสผู้หลบหนีคดีในต่างประเทศใช้สถานีโทรทัศน์ที่ของรัฐ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนใช้ในการสื่อสารแสดงความบริสุทธิ์ จึงน่าจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. ระบุว่า เป็นความเห็นแก่ตัวของพ.ต.ท.โททักษิณที่ใช้ช่องทาง ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนมาโฆษณาเชิญชวนเชื่อถึงความบริสุทธิ์ และกล่าวอ้างว่ามีความจงรักภักดี เพราะหากเป็นเจตนาจริงก็ควรเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนการตอบโต้กรณีคลิปเสียงจาบจ้างสถาบัน น่าจะเป็นเพียงการแก้ตัว เพราะหากจะมีการตัดต่อคลิป ก็น่าจะเป็นการตัดคำหยาบคาย ที่ไม่สามารถนำเสนอได้เท่านั้น จึงยังคงยืนยันว่าเสียงทั้งหมดเป็นของพันตำรวจโททักษิณจริง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง