ย้อนเหตุกราดยิงในสถาบันการศึกษาสหรัฐฯ
แม้ครั้งล่าสุดนี้จะไม่ใช่ครั้งที่มีผู้สูญเสียมากที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสลดใจ เพราะผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ต่างกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ลองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์น่าเศร้าที่ผู้คนโดยเฉพาะชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังจดจำกันอยู่ แม่จะผ่านมากว่า 13 ปีแล้ว
เหตุกราดยิงในสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกและผู้คนยังจดจำได้ถึงวันนี้ นั่นคือเหตุการณ์ที่วัยรุ่นชาย 2 คน ใช้อาวุธปืนกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ในเมืองลิตเติ้ลตัน (Littleton) รัฐโคโลราโด้ เมื่อเดือนเมษายนปี 2542 มีนักเรียนเสียชีวิต 13 คน และผู้ก่อเหตุทั้งคู่ยิงตัวตายในเวลาต่อมา
ถัดจากนั้นอีก 8 ปี ในเดือนเมษายนปี 2550 มีเหตุกราดยิงในวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค ในเมืองแบล็คเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย มีผู้เสียชีวิตมากถึง 32 คน และผู้ก่อเหตุยิงตัวตายเช่นกัน นี่ถือเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ที่ผ่านมาเหตุกราดยิงในสหรัฐฯเกิดขึ้นบ่อยครั้งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในที่สาธารณะ เช่นศูนย์การค้า โดยหนึ่งในเหตุสะเทือนขวัญที่สุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ที่เมืองออโรร่า รัฐโคโรลาโด้ มีผู้กราดยิงในโรงภาพยนตร์ ซึ่งฉายหนังเรื่องแบทแมนภาคล่าสุด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บ 58 คน ซึ่งเหตุกราดยิงส่วนใหญ่มักจะจบลงด้วยการที่ผู้ก่อเหตุยิงตัวตาย หรือไม่ก็ถูกตำรวจยิง
แม้ว่าจะมีความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ชาวอเมริกันบางส่วนกลับไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายควบคุมการพกพาอาวุธ เพราะเห็นว่าประชาชนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่จะพกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวเอง นอกจากนี้กฏหมายการพกอาวุธปืนในแต่ละรัฐก็แตกต่างกัน
โดยรัฐแคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐที่มีกฏหมายควบคุมการพกอาวุธปืนที่เข้มงวดที่สุด การซื้อขายอาวุธปืนทุกชนิดและทุกครั้ง จะต้องถูกรายงานไปยังรัฐบาลของรัฐ ส่วนอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงและปืนสไนเปอร์ หรือปืนซุ่มยิงระยะไกล ถือเป็นอาวุธต้องห้าม ไม่สามารถซื้อขายได้ นอกจากนี้การซื้ออาวุธปืนสามารถซื้อได้สูงสุดเดือนละหนึ่งกระบอกเท่านั้น ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มาตรการนี้ช่วยลดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในรัฐแคลิฟอร์เนียได้อย่างมาก