ปภ.ประกาศเตือนพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วม-ดินถล่ม

ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง และสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรบางพื้นที่ ขณะที่กระแสลมตะวันออกที่เคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมและดินถล่ม

ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำของอ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และเคยถูกน้ำท่วมซ้ำซาก ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำที่สูงขึ้นจากฝนที่ยังตกต่อเนื่อง ขณะที่น้ำจากเทือกเขาสันกลาคีรีที่ยาวไปตลอดถึงประเทศมาเลเซียยังไหลลงมาสมทบทำให้ชาวบ้านเกรงว่า อาจจะเกิดน้ำท่วมอีก

ส่วนที่จ.พัทลุง ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้กุฏิอายุกว่า 100 ปีจำนวน 6 หลัง ของวัดคูหาสวรรค์ อารามหลวงเพียงแห่งเดียวของจังหวัด ถูกดินที่ชุ่มน้ำไหลลงมาทับ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต้องประกาศเป็นพื้นที่อันตราย และเตรียมนำเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีเข้าไปสำรวจพื้นที่เสี่ยง และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

   

 

ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพอากาศที่แห้งแล้งส่งผลกระทบต่อเกษตรกร เช่น ในต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงกว่า 2 เดือน ทำให้เกษตรกรบางส่วน ต้องปรับตัวปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแต่เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากลำคลองธรรมชาติ ทำให้ต้องลงทุนเจาะบ่อน้ำบาดาลและอุปกรณ์ทำระบบน้ำหยด เพื่อไม่ให้พืชที่ปลูกไว้แห้งตาย

ส่วนที่อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เกษตรกรในต.ลิ้นฟ้าต้องเร่งเก็บหอมแดงเพื่อป้องกันการระบาดจากโรคเชื้อรา จากสภาพอากาศที่ทำให้หอมแดงเกิด รากเน่า ใบเหี่ยวแห้งเสียหาย

ส่วนจ.เชียงราย อุณหภูมิเช้านี้วัดได้ 12.5 องศาเซลเซียส ขณะที่ยอดดอยอยู่ระหว่าง 5 ถึง 6 องศาเซลเซียส ทำให้จังหวัดเตรียมนำผ้าห่มที่ได้รับมอบจากภาคเอกชนไปแจกจ่ายพื้นที่ประสบภัยหนาว ด้านจ.ชัยภูมิ อากาศทุบมอบจากภาคเอกชนไปแจกจ่ายพื้นที่ประสบภัยหนาว ขณะที่จ.ชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม ถึงวันที่ 1 มกราคมปีหน้า เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว