หลังออกแถลงการณ์กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 1 ต่อท่าทีคดีปราสาทพระวิหารเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่จะไม่ยอมรับคำตัดสิน และอำนาจของศาลโลก ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค.นี้แกนนำพันธมิตรฯจะเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการต่อไป
โดยพันธมิตรฯ ตั้งข้อสังเกตในการทำงานของรัฐบาลที่มีท่าทีเพิกเฉย และ ยอมรับความพ่ายแพ้อาจส่งผลทำให้เสียดินแดน ล่าสุดนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธความเพิกเฉย และ ย้ำถึงการเดินหน้าต่อสู้คดี เพียงแต่การระบุเช่นนั้นอยู่บนพื้นฐานการประเมินผลการตัดสินว่าประเทศไทยจะมี 2 แนวทาง คือ แพ้ และ เสมอตัว ต่อคดีนี้ เนื่องจากพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ทับซ้อนมีปัญหามาโดยตลอด ซึ่งไม่ว่า ผลจะออกมาอย่างไร รัฐบาลต้องชี้แจงต่อประชาชนต่อไป
ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการให้รัฐบาลตั้งประเด็นเพื่อเบี่ยงเบนคดีปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องที่หวังสร้างความแตกแยกเพราะหากพิจารณาจากสาเหตุแล้วเรื่องนี้เริ่มต้นจากรัฐบาล และ แถลงการณ์ร่วมของนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการขับเคลื่อนจากนี้จึงไม่ใช่เพียงการเคลื่อนไหวที่หวังบิดเบือนประเด็น
กำหนดการพิจารณาคดีของศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหารศาลนัดให้ฝ่ายไทยและกัมพูชาไปที่ศาล ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้เพื่อให้ 2 ฝ่ายได้แถลงและโต้แย้งคดีด้วยวาจา ก่อนให้ทั้ง 2 ฝ่ายแถลงปิดแถลงระหว่างวันที่ 18-19 เม.ย.จากนั้นศาลจะนัดฟังคำพิพากษาในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.2556