4 ปีนโยบายเชื่อมระบบขนส่ง
ค่อนข้างเป็นรูปธรรมว่าตลอดสมัยการบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพ และการจราจร เป็นเรื่องที่ถูกเดินหน้าอย่างต่อเนื่องนโยบายเหล่านี้ไม่ต่างจากข้อเสนอของเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯ ที่ยื่นเคยต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อ 4 ปีก่อนมากนัก อย่างเรื่องของการศึกษาทั้งภาคประชาสังคม และกรุงเทพมหานครเองต่างเห็นตรงกันว่าต้องสนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กทุกคนในกรุงเทพฯ
ไม่ว่าจะเป็นประชากรในพื้นที่ หรือประชากรแฝง และไม่ใช่แค่ความเท่าเทียมเท่านั้น การศึกษาที่เด็กๆ เหล่านี้ได้รับ จะต้องมีคุณภาพด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครเปิดให้นักเรียนในสังกัดโรงเรียน กทม. เรียนฟรี ปรับรูปแบบการเรียนการสอนด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ควบคู่กับการเรียนการสอน จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหนังสือโลก ประจำปี 2556
มาที่นโยบายด้านสุขภาพกันบ้าง เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯเน้นเรื่องของการให้บริการสุขภาพที่ทั่วถึง และเป็นธรรม ขณะที่กรุงเทพมหานครพยายามพัฒนา และยกระดับมาตรฐานของโรงพยาบาลและศูนย์สาธารณสุขในสังกัด ควบคู่ไปกับการให้ประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงบริการที่มีประสิทธิภาพ แม้จะยังไม่ครอบคลุมอย่างที่ตั้งเป้าไว้ แต่ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีทีเดียว
อีกเรื่องที่เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯ เห็นว่ายังต้อการนโยบายที่ชัดเจนจากฝ่ายบริหาร คือเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะที่ผ่านมา ชัดเจนแค่เรื่องของการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง แต่ไม่ได้พูดถึงการรักษาพื้นที่สีเขียวโดยภาพรวมของทั้งเมือง และปะเด็นสิ่งแวดล้อมอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพน้ำ ขยะ หรือคุณภาพอากาศ
ประเด็นทิ้งท้ายวันนี้ เป็นเรื่องของปัญหาจราจร ที่เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯไม่ได้คาดหวังถึงขนาดให้ กทม.มาแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบ แต่พวกเขาอยากเห็นการเชื่อมระบบขนส่ง เพื่อแก้ปัญหาจราจร เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง และเพื่อลดปัญหามลพิษให้กับเมือง
นโยบายสร้างความสะดวกในการเดินทาง เพื่อความรวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย เป็นนโยบายด้านที่ 6 ของผู้ว่าฯ กทม.คนล่าสุด ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ในขณะที่หลายคนมองว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการขนส่งทางน้ำ แต่หลายคนที่ใช้บริการขนส่งทางรางก็ค่อนข้างพอใจกับผลงาน 4 ปีที่ผ่านมา
และเพื่อรับมือกับความแออัดของการจราจรทางบก จากปริมาณรถยนต์ที่จะเพิ่มขึ้น การพัฒนาระบบบนส่งทางเลือกทั้งทางน้ำ และระบบราง รวมถึงการเชื่อมต่อระบบเหล่านี้ยังคงเป็นภาระที่ท้าทายผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่ภาคประชาสังคมมองว่าอยู่ในขอบข่ายอำนาจที่พ่อเมืองของพวกเขาจะทำได้