“เฉลิม” ย้ำ ดีเอสไอสอบปัญหาทุจริตสร้างโรงพักอย่างเป็นธรรม
ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กรณีโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ ที่ไม่แล้วเสร็จตามสัญญาสัมปทาน โดยผู้อภิปรายประเด็นนี้ คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งภายหลังกลายเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยยื่นร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ตรวจสอบ โดยอ้างว่า การขออนุมัติสร้างสถานีตำรวจ ที่แบ่งเป็น 9 ภาคการปกครอง มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาให้ทำสัญญาเพียงบริษัทเดียว ทำให้การก่อสร้างล่าช้า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ภาคการเมืองในยุคนั้น อาจเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูล
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การที่พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบโครงการ เพราะมีข้อมูลว่า มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงการทำสัญญา ซึ่งเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ. ฮั้วประมูล จึงสั่งให้ดำเนินการโดยเคร่งครัดอย่ากลั่นแกล้ง พร้อมทั้งระบุว่า ไม่กลัวการฟ้องร้องเพราะได้ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ส่วนกรณีจะมีรายชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ระบุว่า สมัยนั้นนายสุเทพ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังตรวจสอบ ต้องมีข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายจึงจะดำเนินการได้
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า นายสุเทพ พร้อมชี้แจงในกรณีดังกล่าว พร้อมระบุว่า ในสมัยที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยรับทราบการฮั้วประมูลโครงการนี้ และเป็นเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ กตช. ที่มีตัวเองเป็นประธาน ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้กำลังดูที่มาที่ไปของโครงการทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร ส่วนพฤติกรรมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อาจกล่าวหานายสุเทพ หากฟังจากคนทำงาน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา หากกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม หรือกลั่นแกล้ง ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย