นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะหนึ่งในคณะทำงานต่อสู้คดี เปิดเผยก่อนเข้าหารืออย่างเป็นทางการกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อวางกรอบคำแถลงปิดคดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหารในช่วงบ่ายว่า ทีมทนาย ทีมกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะรายงานความคืบหน้าในการวางแนวทางด้านความมั่นคง และข้อกฎหมาย รวมถึงแนวทางการแถลงปิดคดีด้วยวาจา เพื่อพิจารณาจุดอ่อนจุดแข็งในการต่อสู้คดี
นายพงศ์เทพ กล่าวให้ความมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ต่อสู้คดีอย่างดีที่สุด ซึ่งนอกจากทีมทนายของไทยแล้ว ยังมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายชาวต่างประเทศ ที่เคยว่าความและชนะคดีในศาลโลกเข้าร่วมงานด้วย และแม้จะรับรู้ได้ ว่าทั้งนายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่างก็ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มที่ แต่ก็จะแยกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศออกจากการต่อสู้คดี จึงให้คำมั่นได้ว่า คดีนี้จะไม่มีการยอมความเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนการตอบโต้กันระหว่างสมเด็จฮุนเซ็น กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจเป็นมุมด้านลบที่กัมพูชานำไปใช้ในการต่อสู้คดีได้ จึงขอให้ใช้ความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นด้วย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเปิดเผยถึงข้อมูลที่ได้รับรายงานจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า การแถลงปิดคดีของฝ่ายกัมพูชาในเดือนเมษายนนี้ พบว่า กัมพูชาเตรียมพาดพิงถึงรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย และกล่าวย้ำว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ดำเนินการใดเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจ หรือ เอ็มโอยู 46 จึงยืนยันได้ว่า ไม่มีกรณีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น
นายชวนนท์ อินทรโกมารสุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงสนับสนุนความเห็นของรัฐบาล ที่ไม่ต้องการนำประเด็นปราสาทพระวิหารมาเป็นประเด็นทางการเมือง พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่นำเอกสารของกัมพูชา ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้มาแถลงกล่าวหาโจมีตีฝ่ายค้าน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือด้วย