เผยชาวมาเลย์ใช้ชีวิตทันสมัย ช้อปปิ้งในซุปเปอร์ฯ ใส่ใจสุขภาพ
โดยเฉพาะอาหารอินทรีย์แนวโน้มดี ปี 2555 ไทยส่งออกไปมาเลเซียกว่า 8 แสนล้านบาท
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการศึกษาเชิงลึกในพฤติกรรมของผู้ซื้อในตลาดมาเลเซียว่า ปัจจุบันคนมาเลเซียเข้ามาอาศัยและทำงานในเมืองมากขึ้นมีชีวิตที่เร่งรีบและแสวงหาสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นนิยมอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานที่สะดวกรวดเร็วขณะที่กลุ่มที่ยังทำอาหารที่บ้าน นิยมมาซื้ออาหารพร้อมปรุงเพื่อลดเวลาในการจัดเตรียมและประกอบอาหารลงส่งผลให้แนวโน้มการจับจ่ายอาหารเปลี่ยนจากตลาดสดเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีความสะดวกสบายมากกว่าบางแห่งมีลักษณะเป็นวันสต็อปช้อปมีร้านอาหารบริการครบถ้วนเป็นที่นิยมของครอบครัวเมื่อออกมานอกบ้าน
สำหรับการค้าปลีกจากสถิติพบว่ายอดขยายในตลาดสดลดลง 8%แต่ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ตขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง15%ร้านค้าปลีกสมัยใหม่นี้เป็นผลมาจากนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติอาทิ Giant, Carrefour, Tesco, Jusco (ถูกซื้อโดย AEON)
“อาหารอินทรีย์เป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวมาเลเซียผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจและให้ความสำคัญมากขึ้นอุตสาหกรรมอาหารอินทรีย์จึงมีแนวโน้มที่ดีและลู่ทางเติบโตอย่างมากปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรได้ออกเครื่องหมายรับรองสินค้าอินทรีย์ภายใต้ชื่อ “Skim Organik Malaysia: SOM” สำหรับผักผลไม้สมุนไพรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเห็ด (ไม่รวมเนื้อสัตว์ไก่ไข่)อย่างไรก็ดียังไม่มีการบังคับใช้กฎเกณฑ์เกี่ยวกับฉลากอินทรีย์ (organic labeling) ผู้ผลิตจึงมีอิสระในการใช้ฉลากและโลโก้อาหารอินทรีย์ใบรับรองอื่นที่มีอยู่ในตลาด”นางศรีรัตน์ กล่าว
สินค้าฮาลาลตลาดฮาลาลในมาเลเซียนมีแนวโน้มขยายขอบเขตครอบคลุมสินค้าอื่นนอกจากอาหารในปี 2554 มาเลเซียมีผลิตภัณฑ์ฮาลาลใหม่มากกว่า 334 ชนิดและรัฐบาลมุ่งเน้นเงินลงทุนจากอิสลาม(Islamic funding)ผ่านการลงทุนจากต่างประเทศ
สถิติการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซียนในปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 12,426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(838,709 ล้านบาท) หรือขยายตัว0.22% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป 1,828 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 62% รองลงมาเป็นรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง
ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 13,106 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 6.3% โดยสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2,212 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น27% น้ำมันดิบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น