ไทยพีบีเอสพาไปรู้จักผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่
สื่อส่วนใหญ่ต่างให้พื้นที่ข่าวกับมวยคู่เอกระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มือวางอันดับหนึ่งของทั้ง 2 พรรคใหญ่ ลงพื้นที่หาเสียงไม่เว้นแต่ละวัน วันนี้เราให้พื้นที่แก่ผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ และผู้สมัคร ส.ส.ซึ่งเป็นทายาทของนักการเมือง โดยทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครทุกรายที่ลงไปสังเกตการณ์ พบว่ามีประวัติการศึกษาจบจากต่างประเทศ และยืนยันมีความมุ่งมั่นทางการเมืองแม้ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่
นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของป๋าเหนาะ เสนาะ เทียนทอง จบปริญญาตรี สาขาบริหารการเงิน (เกียรตินิยม) จอนห์นสัน แอนด์ เวลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จบปริญญาโท สาขาผู้นำองค์กร จอห์นสัน แอนด์ เวลส์ จากสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน โดยประกาศตัวว่ามีความพร้อมที่จะมารับใช้ประชาชนในเขตหลักสี่
ส่วน น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือ ตั๊น ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงดุสิต ราชเทวี โดยระบุว่า สมัคร ส.ส. เป็นสมัยแรก เพราะอายุเพิ่งครบ 25 ปี แต่ก่อนหน้านี้เคยทำงานทางการเมืองมาแล้ว เพราะเคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจบปริญญาตรี king college มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สาขา วิชาภูมิศาสตร์ และได้เกียรตินิยมด้วย
ด้านพรรคน้องใหม่อย่างพรรครักษ์สันติ ซึ่งมี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นจุดขาย ส่งผู้สมัครที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา อย่าง ม.ล.เกียรติเกษม เกษมสันต์ แต่มีความรู้ความสามารถทางด้านไอที เพราะว่าเป็นผู้คิดค้น และพัฒนาซอฟต์แวร์พิสูจน์อักษรไทย และเป็นผู้บุกเบิก และพัฒนาระบบภาษาไทย ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มือถือปาล์ม และเครื่องsmart phone จบปริญญาตรี และปริญญาโทจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ น.ส.สุวิภา คุณกิตติ หรือคุณขวัญ ปริญญาโทเกียรตินิยมอันดับ 1 วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ แห่งลอนดอน (LSE) ประเทศอังกฤษ โดย น.ส.สุวิภายอมรับว่า แม้ว่าจะเสียเปรียบในการลงพื้นที่หาเสียง เพราะคุณพ่อ คือนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเจรจาปัญหาเรื่องแผนการจัดการปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่จะพยายามช่วยพรรคในการประชาสัมพันธ์พรรคอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวไทยพีบีเอสเข้าสังเกตการณ์ ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 คนซึ่งเป็นหน้าใหม่ และเป็นทายาทของนักการเมือง สรุปว่า น.ส.สุวิภา คุณกิตติ เป็นคนที่ตอบคำถามที่ฉะฉานที่สุด และรู้เรื่องนโยบายของพรรคเป็นอย่างดี
จากผลสำรวจที่มาของ ส.ส.โดยเครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย ระบุว่า ร้อยละ 45 ได้รับการชักชวนจากพรรคการเมือง เพราะเคยรู้จัก มีสายสัมพันธ์กับคนในพรรค หรือเคยเป็นคนหิ้วกระเป๋า ตามนักการเมืองมาก่อน ร้อยละ 21 มาเป็น ส.ส.เพราะได้รับมรดกจากคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นปู่ย่า ตายาย หรือพ่อแม่ หรือที่เรียกว่าผูกขาดทางการเมือง ร้อยละ 8 เป็น ส.ส.แถว 2 แถว 3 เพราะ ส.ส.แถว 1 ถูกใบแดงหรือพรรคถูกยุบ และร้อยละ 3 เข้ามาเป็น ส.ส.เพราะมีจิตอาสา คนดีที่อยากทำงานเพื่อประชาชน
