เกิดเหตุอุกาบาตชนรัสเซียทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 500 คน

เศษอุกาบาตตกลงสู่พื้นผิวโลกบริเวณประเทศรัสเซีย และเกิดระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อพุ่งผิวโลก ทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 500 คน ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นก่อนที่ดาวเคราะห์น้อย2012 DA14 จะลอยเฉียดใกล้โลกมากที่สุดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์น้อยดวงดังกล่าว

เศษอุกาบาตตกลงสู่พื้นผิวโลกบริเวณประเทศรัสเซีย และเกิดระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อพุ่งผิวโลก สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 500 คน ซึ่งมีภาพวงจรปิดที่เผยให้เห็นแสงจากการเผาไหม้ของอุกาบาตร ขณะตกสู่ชั้นบรรยากาศ ก่อนจะพุ่งชนผิวโลก บริเวณเมืองซัทก้า ในเขตเชอเลียบินสก์ แถบเทือกเขาอูราล ของประเทศรัสเซีย ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,500 กิโลเมตร

ขณะที่อุกาบาตตก เป็นช่วงเวลาตอนเช้า ที่ประชาชนเริ่มออกจากบ้านเรือน จึงมีคนใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพกลุ่มควันจากการเผาไหม้ของอุกาบาตรไว้ได้ จนถึงตอนที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ในตอนที่อุกาบาตพุ่งชนพื้นโลก

ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีประชาชนโทรศัพท์แจ้งเหตุกับทางการหลายสาย และมีรายงานผู้บาดเจ็บ และความเสียหายของอาคารหลายหลัง หนึ่งในอาคารที่เสียหายหนัก คือโรงงานแห่งหนึ่ง ที่หลังคาเสียหาย และกระจกแตกแทบทั้งตัวอาคาร นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คลื่นช็อคจากการปะทะผิวโลกของอุกาบาต ส่งผลให้กระจกหน้าต่างบ้านเรือน และอาคารแตกกระจาย ข้าวของแตกหัก เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บมากถึง 475 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือประชาชน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวรัสเซียอย่างยิ่ง บ้างบอกว่ารู้สึกราวกับวันสิ้นโลก บ้างก็บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับในภาพยนตร์ ขณะที่ทางการรัสเซียร้องขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ซึ่งจากการตรวจวัดระดับกัมมันตรังสีในบรรยากาศ ไม่พบความผิดปกติหรือการเพิ่มขึ้นของรังสีแต่อย่างไร แต่ก็ได้สั่งการเตรียมความพร้อมทหาร 20,000 นาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีแล้ว

ทางการท้องถิ่นเมืองเชอร์เลียบินสก์ ระบุว่า การระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นที่ระดับความสูงราว 10,000 เมตร ซึ่งคาดว่าเป็นตอนที่อุกาบาตรพุ่งทะลุชั้นบรรยากาศโลก ก่อนเริ่มเผาไหม้จนกลายเป็นเศษอุกาบาตรตกปะทะพื้นผิวโลก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น แต่เมื่อปี 2451 เคยมีอุกาบาตรตกบริเวณเทือกเขาอูราล ในแถบไซบีเรียมาแล้ว สร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่ถึง 2,000 ตารางกิโลเมตร และเกิดแรงปะทะที่ทำให้กระจกแตกในรัศมีถึง 200 กิโลเมตร

การพุ่งชนโลกของเศษอุกาบาตครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนที่ดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 จะลอยเฉียดโลกในระยะ 28,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเฉียดใกล้โลกที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึก แต่สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าอุกาบาตนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 แต่อย่างใด เพราะดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 ลอยเข้าใกล้โลกจากทางใต้ แต่อุกาบาตนี้ ตกทางขั้วโลกเหนือ ดังนั้นจึงเป็นเพียงเหตุบังเอิญทางดาราศาสตร์ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ