เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในจ.ปัตตานี วางกำลังคุมเข้มในเขตเทศบาลเมืองเพื่อดูแลความปลอดภัย และเตรียมช่วยเหลือประชาชน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ตามแผนพิทักษ์เมืองของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอด 24 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุลอบลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี 9 จุดวานนี้
นายประมูล ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแส หากพบสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัย หลังการข่าวแจ้งว่า มีกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ รวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้จากเหตุที่มีผู้เสียชีวิตลง 16 คน จากเหตุโจมตีฐานทหาร นาวิกโยธิน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อ 5 วันก่อน เว็บไซต์ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ หรือ Deep South Watch ออกแถลงการณ์ของชาวปาตานีและเครือข่ายประมาณ 8 องค์กร
เนื้อหาระบุว่า การโจมตีฐานทหารเฉพาะกิจ 32 นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตของนักรบประชาชน 16 ชีวิตและถูกจับกุมอีก 3 คน เป็นสะท้อนถึงความคับแค้นใจของชาวปาตานี ต่อการดำเนินนโยบายของรัฐไทยต่อปาตานี จึงขอให้รัฐไทยทบทวนนโยบายและปฏิบัติการทั้งหมดใหม่อย่างรอบคอบ เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและนำทางไปสู่สันติภาพ
ในแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง และจัดตั้งคณะสำรวจข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยอมรับได้ เพื่อจัดทำรายงานข้อเท็จจริงเสนอทางออกต่อรัฐบาลและสาธารณะให้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง
พร้อมขอให้รัฐเร่งดำเนินการสอบสวนผู้ที่ถูกจับกุม 3 คนและนำตัวส่งศาลโดยเร็ว ไม่ต้องรอ 30 เพื่อหลีกเลี่ยงการล่วงละเมิดในขบวนการสอบสวน และเพื่อลดเงื่อนไขความรุนแรงจากอีกฝ่าย
สำหรับพื้นที่อ.เมือง จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งถูกระบุว่า เป็นหัวเมืองย่านเศรษฐกิจที่ต้องปกป้องไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังรักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆ เพื่อดูแลย่านชุมชนและตลอดเส้นทางในเขตเมือง พร้อมทั้งตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้า-ออกในเขตเมือง
ส่วนที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือประชาชน ตรวจสอบรถยนต์และรถจักยานยนต์ ตามมาตรการคุมเข้มระดับสูงสุด พร้อมจัดชุดลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในย่านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าและโรงแรม