เร่งพัฒนา3จี รับนักท่องเที่ยวไอที เร่งงบฯ รัฐช่วยดันท่องเที่ยวไทยสดใส ผลโพลชี้ปัญหา
ททท.เร่งทำแผนแจงประชาชน มองปัญหาท่องเที่ยวทุกด้าน เร่งเน้นทำตลาดแก้จุดบกพร่อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำรวจความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อด้านการท่องเที่ยว โดย สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าททท. เป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ทั้งปัญหาคมนาคมขนส่ง อาชญากรรม หลอกลวงนักท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งแท้จริงแล้วททท. มีบทบาทหลักจำกัดเฉพาะด้านส่งเสริมการตลาดและมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ
ขณะที่ปัญหาที่นักท่องเที่ยวต้องการให้แก้ไขและพัฒนามากที่สุด อันดับ 1 ยังเป็นเรื่องความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว 8.74 คะแนน ตามด้วยเรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ 8.69 คะแนน การปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม 8.51 คะแนน การคมนาคม 7.51 และตามด้วยการดูแลเรื่องความสะอาดและจัดระเบียบร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยว 7.50
ทั้งนี้ สอดคล้องกับผลสรุปของเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ที่เปิดเผยขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านท่องเที่ยวสำหรับปี 2556 จำนวน 139 ประเทศ พบว่า ไทย ตกลงมาจากอันดับ 43 มาอยู่ที่ 41 ซึ่งหัวข้อหลักที่ทำให้คะแนนของไทยอยู่ในระดับต่ำคือ กฎระเบียบและนโยบายด้านท่องเที่ยว ความปลอดภัย สุขอนามัย การจัดการเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องไทยขาดความสามารถในการแข่งขันในด้านเทคโนโลยีเหมือนประเทศคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ หรือมาเลเซีย ทำให้ประเด็นนี้ไทยได้คะแนนส่วนนี้เพียง 2.9 จาก 7 คะแนน เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปัจจุบัน จะพบว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวไปแล้ว เพื่อใช้ค้นหาข้อมูลต่างๆ แต่ไทยยังไม่มีการใช้เครือข่าย 3จี และระบบฟรีไวไฟ หากไทยพร้อมในเรื่องนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยในทางอ้อม อย่าลืมว่าสังคมปัจจุบันเป็นสังคมแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งนักท่องเที่ยวชอบแชร์รูปภาพผ่านโปรแกรมต่างๆ
นายนายธนวรรธน์ กล่าวว่า เชื่อมั่นโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ในด้านคมนาคมขนส่งระบบรางทั่วประเทศ รวมถึงการเตรียมใช้เทคโนโลยี 3จี การมีทีวีดิจิตอลจะทำให้การท่องเที่ยวไทยมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้น สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น การวางแผนดำเนินงานต่างๆ ก็จะง่ายขึ้น โดยเฉพาะการโปรโมตแหล่งทอ่งเที่ยวใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว ที่มักจะเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ ซึ่งมองว่า หากทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้จริง เชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะมีส่วนช่วยผลักดันรายได้ของประเทศให้เติบโต 5-7% ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ได้ฃ
นายพงศธร เกษสำลี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะนำผลดังกล่าวไปนำเสนอกับหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงส่วนททท.เองก็ขะเร่งประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ถึงบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้น ว่ามีอำนาจดูแลเฉพาะด้านการตลาดเท่านั้น