ตัวแทนผู้ส่งออก-นักวิชาการ
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุเงินบาทที่แข็งค่าและผันผวนสูง ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งใช้วัตถุดิบภายในประเทศมากที่สุด เพราะไม่สามารถคำนวณต้นทุนที่ถูกต้องได้ และเห็นว่ามาตรการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้ช่วยผู้ส่งออกมากนัก
สอดคล้องกับนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ มองว่า การลดดอกเบี้ยนโยบายไม่มีประโยชน์กับเศรษฐกิจภาพรวมมากนัก เพราะเงินบาทที่แข็งค่าเกิดจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทย รวมถึงโครงการ โครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่ดึงดูดเม็ดเงินนักลงทุนต่างประเทศทั้งภาคตลาดทุนและภาคการผลิต
ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าถึง 25 บาท ภายใน 4-5 ปีนี้ ดังนั้น รัฐบาลควรหาโอกาสนี้ พิจารณาทำประโยชน์จากค่าเงินบาท เช่น การนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง สำหรับเงินบาทเช้านี้ อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 29 บาท 14 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อวานนี้ปิดที่ 29 บาท 10 สตางค์