รัฐบาลไซปรัสกดดัน ส.ส.รับแผนเก็บภาษีเงินฝาก

รัฐบาลไซปรัสกดดันให้ สส.ที่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีเงินฝากทบทวนเรื่องนี้ใหม่ เพราะถ้ารัฐสภาไซปรัสยังไม่สามารถตกลงเรื่องนี้ร่วมกันได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันจันทร์นี้ ไซปรัสจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากธนาคารกลางของยุโรป ซึ่งจะทำให้ธนาคารหลายแห่งล้มละลายและไซปรัสอาจจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน

รัฐบาลไซปรัสได้เสนอแผนการ 8 ข้อ ซึ่งเป็นแผนการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐมูลค่า5,800 ล้านยูโรหรือประมาณ 174,000 ล้านบาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากธนาคารกลางยุโรปหรือ"อีซีบี" มูลค่าหมื่่นล้านยูโรหรือประมาณ 400,000 ล้านบาท ตอนนี้รัฐสภาลงมติรับรองไปแล้ว 3 ข้อ อีก 5 ข้อที่เหลือจะต้องลงมติให้แล้วเสร็จภายในสุดสัปดาห์นี้

ทั้งนี้เพื่อให้ทันกำหนดเส้นตายที่"อีซีบี"กำหนดไว้ในวันจันทร์นี้ แต่ข้อที่น่ากังวลที่สุดคือข้อเสนอให้เก็บภาษีเงินฝากจากบัญชีที่มีเงินฝากมากกว่าหนึ่งแสนยูโรหรือประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป โดยจัดเก็บร้อยละ 15 ประธานหอการค้าของไซปรัสและธนาคารหลายแห่งเรียกร้องให้ สส.ที่ไม่เห็นด้วยกับแผนเก็บภาษีเงินฝากทบทวนเรื่องนี้ใหม่

ส่วนแผนที่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาไปแล้ว มีการปรับโครงสร้างธนาคารรวมอยู่ด้วย โดยธนาคารกลางจะทำหน้าที่แยกหนี้ดี ออกจากธนาคารที่มีปัญหาซึ่งได้แก่ธนาคารป็อปพิวล่า ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไซปรัส รวมถึงธนาคารไลกิที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศกรีซ

นอกจากนี้ยังมีแผนการจัดตั้งกองทุนสามัคคีซึ่งอนุญาตให้นำทรัพย์สินของรัฐบาลมาใช้เป็นพันธบัตรฉุกเฉินได้ ซึ่งทรัพย์สินของรัฐในที่นี้รวมถึงกองทุนบำนาญของผู้เกษียณอายุด้วย ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีคลังของไซปรัสไม่เห็นด้วย โดยบอกว่าเป็นการ"เล่นกับไฟ" เพราะจะสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่มองว่ารัฐบาลทำร้ายผู้เกษียณอายุ

แม้ว่าการลงมติของรัฐสภาไซปรัสยังไม่แล้วเสร็จ แต่ประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส ของไซปรัสพร้อมกับหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรค ได้เดินทางไปที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยมในวันนี้ (23 มี.ค.) เพื่อหารือกับผู้แทนของยุโรปถึงมาตรการป้องกันไม่ให้ธนาคารของไซปรัสล้มละลาย