รัฐบาลไซปรัสเตรียมตั้งคณะทำงาน รับมือกับวิกฤตการเงิน

เกิดการประท้วงของประชาชนนักเรียนและพนักงานของธนาคารแห่งไซปรัส ที่ไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนพนักงานของธนาคารแห่งไซปรัสที่มีแนวโน้มว่าจะต้องตกงานจากแผนการปรับโครงสร้างธนาคาร

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.2556) พนักงานของธนาคารแห่งไซปรัสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในประเทศจำนวนหลายร้อยคน เดินทางไปชุมนุมที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งไซปรัส เพื่อประท้วงแผนการปรับโครงสร้างธนาคารของรัฐบาล ซึ่งอาจจะทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารไลกิหรือป็อปปูล่า แบงค์ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่อันดับ 2 ต้องปิดตัวลง โดยจะโอนบัญชีของลูกค้าที่มีเงินต่ำกว่า100,000 ยูโรหรือประมาณ 4 ล้านบาท ย้ายมาไว้กับธนาคารแห่งไซปรัส

โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงรายละเอียดของแผนการปรับโครงสร้างธนาคาร และเรียกร้องให้นายปานิคอส ดีมีทริแอด ผู้ว่าการธนาคารกลางลาออก เพราะไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้ ส่วนนายแอนเดรส อาร์เทมิส ประธานของธนาคารแห่งไซปรัส ได้ยื่นเรื่องขอลาออกจากตำแหน่ง

ด้านโฆษกรัฐบาลแถลงว่าจะมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน  ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางและกระทรวงการคลัง เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเงิน นอกจากนี้รัฐบาลจะตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อสอบสวนว่าวิกฤตการเงินในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากอะไร และใครจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติ

ในขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางของไซปรัส เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังทำงานหนักในการหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นในวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.2556) ที่ธนาคารทุกแห่งจะเปิดทำการหลังหยุด 12 วัน  เพื่อไม่ให้ประชาชนมาปิดบัญชี มาก ซึ่งตอนนี้ธนาคารกลางกำลังหาทางออกในเรื่องนี้อยู่

ส่วนเรื่องการเก็บภาษีเงินฝาก ตอนนี้ไม่มีการประกาศว่าจะเก็บภาษีในอัตราเท่าไหร่ สำหรับบัญชีที่มีเงินฝากมากกว่า100,000ยูโรหรือประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งอาจจะเก็บภาษีสูงร้อยละ 40 โดยผู้ฝากจะได้รับการชดเชยเป็นหุ้นของธนาคาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ไซปรัสจะต้องทำเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมูลค่าหมื่นล้านยูโรหรือประมาณ 4 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้ไซปรัสล้มละลาย และไม่ต้องออกจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน