อาการลูกวาฬเพชฌฆาตยังน่าห่วง แพทย์เผยยังไม่รู้สาเหตุการป่วย
ความคืบหน้า อาการของ 2 ลูกวาฬเพชฌฆาต ในวันที่ 10 ของการรักษา หลังได้รับบาดเจ็บ ยังมีอาการน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะตัวใหญ่ไม่สามารถกินอาหารได้ตามกปกติ ต้องใช้การป้อนอาหาร และช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมง
ทีมสัตวแพทย์ได้เคลื่อนย้ายวาฬ 1 ใน 2 ที่มีขนาดเล็กกว่า และเริ่มว่ายน้ำได้เองไว้ไว้ในบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ในรีสอร์ทมหาจักร อ.เกาะช้าง จ.ตราด โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ลงไปในน้ำช่วยประคองลำตัวของวาฬให้ขยับไป-มา เพื่อทำกายภาพบำบัด โดยไม่ต้องใช้เสื้อชูชีพ ซึ่งวาฬตัวเล็กนั้นยังกินอาหารเองไม่ได้ แต่ขับถ่ายได้
ขณะเดียวกัน วาฬตัวที่ใหญ่กว่า เริ่มมีความเป็นห่วง กินอาหารที่นำมาป้อนได้ แต่ผ่านมา 9 วันแล้วยังไม่ยอมขับถ่าย และมีอาการท้องอืดตลอดเวลา รวมถึงอาการเกร็ง จนตัวงอ เวลาถูกบริเวณท้อง ต้องมีการให้ยาเร่งระบาย แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังต้องนำเสื้อชูชีพมาใส่ให้ เพราะยังไม่สามารถว่ายน้ำเองได้
ทั้งนี้ สัตวแพทย์บางคนเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด หลังพยายามทุกทำทุกวิถีทาง แต่อาการป่วยของวาฬยังไม่ดีขึ้น และเป็นที่น่าพอใจมากนัก อีกทั้งในแต่ละวันมีผู้ให้ความสนใจจากหลายองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน เดินทางมาติดตามดูสอบถามอาการกันอย่างไม่ขาดสาย
ขณะที่ส่วนผลการพิสูจนจน์ DNA ของวาฬทั้ง 2 ตัว เพื่อหาเชื้อโรคในตัวาฬยังห้องแล็บ ที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เนื่องจาก DNA ที่ส่งไปให้นั้นไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ขณะนี้ทีมสัตวแพทย์ที่ทำการรักษา ยังไม่สามารถรู้ชัดเจนว่าอาการป่วยของวาฬนั้นติดเชื้ออะไรกันแน่ และอาการป่วยของวาฬทั้ง 2 ตัว ก็สลับกันดีและแย่
ขณะผู้ดูแลรีสอร์ทมหาจักร กล่าวว่าที่ผ่านมาผู้บริหารของรีสอร์ทอนุญาตให้รีสอร์ทเป็นพื้นที่สำหรับรักษาวาฬเพชฌฆาตทั้ง 2 ตัว เนื่องจากคิดว่าจะใช้เวลาในการรักษาไม่นาน แต่ขณะนี้ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว อาการของวาฬทั้งสองก็ยังไม่ดีขึ้น ประกอบกับทางรีสอร์ทต้องรับผิดชอบค่าที่พัก และค่าอาหารให้แก่ทีมสัตวแพทย์ รวมถึงนักศึกษาฝึกงาน รวมแล้วกว่า 10 ชีวิต ซึ่งทำให้สูญเสียรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากนักท่องเที่ยวที่มาพักวันละประมาณ 20,000 บาท รวมทั้ง 10 วัน เป็นมูลค่าประมาณ 200,000 บาท ทั้งนี้ ยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากหน่วยงานภาครัฐมาพูดคุยเรื่องของการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในเรื่องดังกล่าว
ภาพ : ตราดทีวี