ผลกระทบจากความขัดแย้งภายในทีมเร้ดบูลล์ส

การจะคว้าแชมป์โลกในการแข่งขันเอฟวันมาครองอีกสมัยของทีมเร้ดบูลล์สในปีนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องแข่งขันกับทีมอื่นๆ แล้ว ภายในทีมกลับมีปัญหากันเองระหว่าง เซบาสเตียน เวทเทล และ มาร์ค เว็บเบอร์

ถือเป็นประเด็นร้อนแรงตั้งแต่ต้นฤดูกาลสำหรับรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือเอฟวัน สนาม 2 ที่เพิ่งจบลงไป ความขัดแย้งของ เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลก 3 สมัย กับ มาร์ค เว็บเบอร์ ในการแข่งขันสนามล่าสุดที่ประเทศมาเลเซีย กลายเป็นประเด็นให้คนในวงการมอเตอร์สปอร์ตต้องออกมาวิพากษ์วิจาร์ณตลอดช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา

ความสัมพันธ์ที่จบลงจากการตัดสินใจไม่เชื่อฟังคำสั่งทีมของเวทเทลที่ให้รักษาระยะห่าง และห้ามแซงเว็บเบอร์ ทำให้หลายฝ่ายในวงการเอฟวันมองว่าทีมเร้ดบูลล์สจะต้องเผชิญปัญหาสำคัญในช่วงเวลาที่เหลือ เพราะคงไม่มีการช่วยเหลือซึ่งกัน และกันของทีมเมตคู่นี้อีกต่อไป นั่นย่อมส่งผลเสียหายต่อทีมเร้ดบูลล์สในการแข่งขัน 17 สนามที่เหลือ แม้เวทเทล และเว็บเบอร์เพิ่งจะคว้าอันดับ 1 และอันดับ 2 ในสนามล่าสุดก็ตาม

ขณะเดียวกัน ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของเอฟวันอย่างนายเบอร์นี่ เอคเคิ่ลสโตน กลับมองว่านี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดเองของทีมเร้ดบูลล์ส โดยมองว่า เร้ดบูลล์ส ไม่มีความจำเป็นต้องออกคำสั่งแก่นักขับในเวลานี้ และควรให้ทั้ง 2 คนชิงชัยกันเองมากกว่า เนื่องจากเป็นช่วงต้นของฤดูกาล และยังห่างไกลกับการลุ้นแชมป์ นายเบอร์นี่ ยังให้เหตุผลที่น่าฟังว่า สุดท้ายแล้ว หาก เวทเทล และ เว็บเบอร์ คนใดคนหนึ่งต้องลุ้นแชมป์ในช่วงท้ายปี อาจไม่มีความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย ซึ่งนี่ส่งผลเสียหายกับเร้ดบูลล์สอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จนถึงเวลานี้ยังไม่มีคำสั่งจากคริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสของเร้ดบูลล์สเพื่อลงโทษ เวทเทล ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ส่วนคุณพ่อของเว็บเบอร์ยืนยันลูกชายจะทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปกับทีมเร้ดบูลล์จนหมดสัญญาในปีนี้ และเชื่อว่าทั้ง 2 คนคงไม่ได้ร่วมงานกันอีกในปีหน้า ทั้งนี้ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ในปี 2010 เวทเทล และ เว็บเบอร์ เคยสร้างความอับอายให้กับเร้ดบูลล์ส หลังชนกันเองในรายการเตอร์กิซ กรังด์ปรีซ์ ที่ตุรกี จนสุดท้ายเป็น ลูอิส แฮมิลตัน ที่คว้าแชมป์ไปครอง

ก่อนหน้านี้ในปี 2007 เคยเกิดปัญหาลักษณะคล้ายกันกับทีมแม็คลาเรน ระหว่าง เฟร์นานโด อลอนโซ่ และ ลูอิส แฮมิลตัน ทั้ง 2 คนมีความบาดหมางต่อกันเกี่ยวกับตำแหน่งนักขับมือ 1 ของทีม การผลัดกันคว้าแชมป์แต่ละสนามทำให้ท้ายที่สุดแล้วแม็คลาเรนต้องพบกับความล้มเหลว เพราะแฮมิลตัน และอลอนโซ่ จบอันดับ 2 และอันดับ 3 ด้วยคะแนน 109 คะแนนเท่ากัน และแชมป์โลกในปีนั้นกลับตกเป็นของ คิมี่ ไรโคเน่น จากทีมเฟอร์รารี่ ที่มีคะแนนมากกว่าทั้ง 2 คนเพียงแต้มเดียว

สำหรับปัญหานี้จะส่งผลกระทบเพียงใดกับทีมเร้ดบูลล์ส คือประเด็นให้ต้องติดตามว่าผลงานต่อจากนี้ไปของทีมจะเป็นอย่างไร อีกประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนที่เอฟวันสนามที่ 3 ในรายการไชนีส กรังด์ปรีซ์ จะเริ่มแข่งขันวันที่ 14 เมษายนที่ประเทศจีน