วิปค้านเสนอแก้ภาพลักษณ์
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณี การทำหน้าที่ประธานในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รายมาตรา และการลงนามสนับสนุนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ของนายนิคม ไวรัชพานิช กลายเป็นปัญหาให้สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่าไม่เหมาะสมและส่อไปในเจตนาที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง ว่า บริบทของนายนิคม ถือเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ในสถานะส.ว.คนหนึ่ง และเชื่อมั่นว่า หากนายนิคม ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมรัฐสภา ก็ไม่น่าจะเกิดกรณีความไม่เป็นกลางขึ้น เพราะโดยหลักการแล้ว นายนิคม คือผู้สมหมวก 2 ใบ หรือมี 2 บทบาทหน้าที่ด้วยกัน
ส่วนกรณีที่สมาชิกรัฐสภา ทั้งส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และส.ว.สรรหาบางคน เตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญ รายมาตรา ประธานรัฐสภา กล่าวยอมรับในสิทธิโดยชอบของผู้ดำเนินการ หากแต่โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่า การพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รายมาตรา จะได้รับความเห็นชอบในหลักการจากสมาชิกรัฐสภา
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงสถานะของนายนิคมที่อยู่ภายใต้ความเคลือบแคลงของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งแม้จะเป็น ส.ว.จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่มีสถานะเป็นรองประธานรัฐสภาและเป็นประธานวุฒิสภา ซึ่งหมายถึงคุณสมบัติเฉพาะที่นายนิยมต้องยึดปฏิบัติ คือความเป็นกลางทางการเมือง และเพื่อไม่ให้พฤติการณ์ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงเสนอ 2 แนวทางในการแก้ไขภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น คือ
1. หากนายนิคม ยืนยันเป็นผู้ร่วมลงชื่อเสนอและสนับสนุนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ควรจะแสดงความจำนงว่า ไม่ทำหน้าที่ประธานการประชุม
2. ถ้าประสงค์จะทำหน้าที่ประธานในการประชุม ก็ควรถอนชื่อออกจากการเสนอและสนับสนุนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน ความไม่เป็นกลางและข้อครหาในการปฏิบัติหน้าที่