<"">
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยัน หัวกระสุนภายในตัวช้างป่า เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทั้ง 2 ตัวเป็นชนิดเดียวกัน ซึ่งในขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุการตายของช้างป่า
ในวันนี้ (11 เม.ย.) พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีฆ่าช้างป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ระบุว่า หลังพบซากช้างเพศเมียมีลูกอยู่ในท้อง เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กำลังตรวจหัวกระสุนปืนที่พบ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดปืนของชาวบ้าน รอบแนวเขตป่าจำนวนกว่า 100 กระบอกมาตรวจสอบหัวกระสุน เบื้องต้นพบว่า ซากช้างที่พบเมื่อวันที่ 8 มีนาคม และซากช้างที่พบตัวล่าสุดเป็นหัวกระสุนชนิดเดียวกัน
นอกจากนั้น ยังพบว่าซากแม่ช้างที่พบครั้งนี้ ไม่มีการตัดอวัยวะที่สำคัญไป ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่น่าจะเป็นฝีมือของนายพราน และยังมีความเป็นไปได้ว่า ช้างป่าทั้ง 2 ตัวอาจถูกยิงมาพร้อมๆกัน
ขณะที่การพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า หัวกระสุนที่พบในกะโหลกและในตัวช้าง ไม่สามารถทำให้ช้างล้มได้ในทันที ประกอบกับช่วงเวลาที่คาดว่าช้างล้มมาประมาณ 20 วัน รวมถึงจุดที่พบซากช้าง ทำให้เจ้าหน้าที่สัณนิษฐานว่า ช้างตัวนี้อาจถูกยิงพร้อมช้างป่าที่ล้มก่อนหน้านี้
ส่วนสาเหตุการฆ่าช้าง ซึ่งเป็นช้างเพศเมียและไม่พบว่ามีอวัยวะส่วนใดหายไป ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุอาจมาจากการกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับช้างที่เข้าไปกินพืชไร่