อาคารจำนวนมากในกรุงกาฐมาณฑุไม่ปลอดภัยหลังเกิดแผ่นดินไหว
อาคารจำนวนมากในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล อยู่ในสภาพที่ทรุดเอียงและแตกร้าวมากขึ้น หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 พ.ค.2558) แม้ว่าอาคารเหล่านี้จะยังยืนหยัดอยู่ได้ แต่ผู้อาศัยส่วนใหญ่ไม่กล้ากลับเข้าไปอยู่ เพราะกลัวจะพังถล่มหากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ ทำให้ต้องอาศัยหลับนอนกันกลางแจ้งและตามถนน
นอกจากนี้ผู้ประสบภัยในกรุงกาฐมาณฑุยังรู้สึกหมดหวังและไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ที่รับมือแผ่นดินไหวและฟื้นฟูความเสียหายอย่างล่าช้า รวมทั้งแสดงความโกรธแค้นนักการเมืองที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่การบูรณะซ่อมแซมความเสียหายในเมืองยังทำได้เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้รัฐบาลเนปาลต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยต้องจัดตั้งศูนย์ประสานความช่วยเหลือในเต็นท์ เนื่องจากปราสาทสินธุ ดูบาร์ ที่ทำการของรัฐบาลได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
ด้านนายซูชิล โคอิราลา นายกรัฐมนตรีเนปาลกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางลงพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเมืองจริโกฏ (Charikot) ยอมรับว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมรับมือเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงรอบสองและบอกว่า ความร่วมมือร่วมใจจะช่วยให้ผ่านพ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ แม้จะเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่นายโคอิราลายืนยันว่าการค้าหาผู้รอดชีวิตและการกู้ภัยจะดำเนินต่อไป
นายโคอิราลายังเปิดเผยถึงการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ของกองทัพสหรัฐที่สูญหายไประหว่างปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองจริโกฏเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกิดแผ่นดินไหว ว่าขณะนี้กองทัพเนปาลส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปค้นหาในพื้นที่แถบเทือกเขาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ แต่ยังไม่พบร่องรอย
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร ล่าสุดเพิ่มเป็น 110 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2,609 คน