ชะตากรรมฟ้าต่ำแผ่นดินสูง
หยิบยกความขัดแย้งกรณีปราสาทพระวิหาร ระหว่างไทย-กัมพูชา มาถ่ายทอดในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง“ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง” ไม่เพียงได้รับเลือกไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หากแต่ยังมีผู้ชมสนใจไม่น้อยตลอด 3 ครั้งที่จัดฉายในเทศกาลภาพยนตร์ในไทย
แม้เป็นประเด็นละเอียดอ่อนทางการเมือง แต่เสียงตอบรับเชิงบวก ทำให้ “นนทวัฒน์ นำเบญจพล” ผู้กำกับภาพยนตร์ตัดสินใจยื่นเรื่องต่อสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดีทัศน์ เพื่อขอเรตภาพยนตร์ หวังให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลงานที่สะท้อนประเด็นความขัดแย้งอย่างรอบด้าน
นนทวัฒน์ นำเบญจพล ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า อยากฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไป ให้คนได้ดูมากขึ้น เพื่อจะเข้าใจประเด็นปัญหามากขึ้น หวังว่าเมื่อหนังได้ฉาย จะทำให้คนไทยไม่ทะเลาะกัน
นอกจากนำเสนอความขัดแย้งทางการเมืองของไทย ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง”ยังให้มุมมองของชาวกัมพูชาในพื้นที่ โดยทีมงานปลอมเป็นชาวจีนอเมริกัน เพื่อถ่ายทอดปัญหาจากเขตแดน ซึ่งกระทบความสัมพันธ์ของผู้คน ที่ต้องเปลี่ยนไปเพียงเพราะเส้นกั้นพรมแดน และยังทำให้ความคิดของคนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย
นนทวัฒน์ นำเบญจพล ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า 1 ข้อเท็จจริง คนเราสามารถมองต่างกันได้ เลยทะเลาะกัน อยากให้หนังเรื่องนี้ทำให้คนอยู่ร่วมกันได้บนความเห็นต่าง สุดท้ายแล้วต้องมีจุดที่ทำให้เรื่องไม่บานปลายถึงชีวิต ต้องเคารพข้อตกลงที่เป็นหลักสากล
เมื่อแผ่นดินยกสูง และแผ่นฟ้าลดต่ำ จนมาบรรจบกัน เมื่อนั้นเส้นแบ่งแยกระหว่างกันจะพร่าเลือน คือความคิดที่ “นนทวัฒน์” รู้สึกตอนข้ามมายืนอยู่บนจุดสูงสุดบนเขาพระวิหาร กลายเป็นที่มาของชื่อเรื่อง “ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง” ที่หวังให้เกิดการข้ามพรมแดน รับฟังความรู้สึกของคนทุกฝ่าย ซึ่งเป็นหนทางไปสู่สันติภาพ