นักวิชาการชี้
การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา และการเร่งผลักดันพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น นักวิชาการอิสระ เชื่อว่า สมาชิกรัฐสภาหลายคนอาจรู้สึกอึดอัดกับบทบาทตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถขัดขืนได้ เพราะขาดทางเลือกที่จะทำหน้าที่เพื่อประชาชนได้ เนื่องจากอยู่ภายใต้ระบบพรรคการเมือง ซึ่งมีระบบทุนเป็นฝ่ายกำหนดทิศทาง โดยเฉพาะมติพรรคเพื่อไทยที่เห็นควรเลื่อนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเรื่องเร่งด่วน ถือเป็นทางเลือกเดียวที่จะรักษามวลชนและคงความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่ม นปช.ต่อไป
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของส.ส.และส.ว. รวม 312 คน ตามคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ 237 เข้าข่ายริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้น มีรายงานว่า วุฒิสภากำลังยกร่างคำชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้าสาระสำคัญคือการยืนยันในอำนาจและสิทธิโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญต่อกรณีการแก้รัฐธรรมนูญ ตามวิธีการ ที่บัญญัติใน มาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ
ขณะที่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า คำร้องกรณีแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ 237 ครั้งนี้ ต่างจากคำร้องกรณีแก้รัฐธรรม มาตรา 291 ครั้งก่อน ทำให้ส.ส.ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะส.ส.พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธที่จะส่งคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างอิงเหตุผลเดียวกับวิปรัฐบาล ที่ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาลไปก่อนหน้านี้ จึงเตรียมส่งหนังสือโต้แย้งอำนาจต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างหนังสือ เพื่อให้ครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งโครงสร้างอำนาจ บทบาทและหน้าที่ รวมถึงหลักเกณฑ์การแก้รัฐธรรมนูญ