นัดนี้เล่นกันที่คัมป์นู บาร์เซโลน่า พบ เลบานเต้ บาร์เซโลน่าส่งผู้เล่นตัวสำรองลงเล่นในนัดนี้หลายคน และไม่มีชื่อของลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าตัวเก่งในรายชื่อผู้เล่นสำรองด้วย เกมผ่านมา 17 นาที บาร์เซโลน่าพลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำ เมื่ออันเดรส อีเนียสต้า ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ดาวิด บีย่า กลับยิงไปถูกเคย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูเลบานเต้ป้องกันไว้ได้ แม้เชส ฟาเบรกาสจะวิ่งเข้าซ้ำ แต่ก็ถูกสกัดข้ามคานออกไป
เกมหลังจากนั้นเป็นบาร์เซโลน่าที่ครองเกมบุกไว้ได้ แต่กว่าจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก็ต้องรอจนถึงช่วง 6 นาทีสุดท้ายของเกม จากจังหวะที่อเล็กซิส ซานเชซ เปิดบอลเข้ามาให้ฟาเบรกาสยิงเข้าประตู จบเกม บาร์เซโลน่า เฉือนชนะ เลบานเต้ 1-0 พร้อมกับขยับเข้าใกล้การคว้าแชมป์เข้าไปทุกที โดยมี 84 คะแนนจาก 32 นัด นำหน้ารีล มาดริด รองจ่าฝูงอยู่ถึง 13 คะแนน ขณะที่เหลืออีกเพียง 6 นัดก็จะจบฤดูกาล ส่วนเลบานเต้รั้งอันดับ 12 มี 40 คะแนน
ในนาทีที่ 73 เบติสมาได้ประตูไล่มา 2-1 จากจังหวะที่นาโช่ ไปทำฟาวล์รูเบน คาสโตร ในเขตโทษ และเป็นฆอร์เก้ โมลิน่า ยิงจุดโทษเข้าไป หลังจากนั้นเบติสบุกหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็พลาดไปหมด จนมานาทีสุดท้าย รีล มาดริด มาได้ประตูย้ำชัยชนะจากการทำประตูที่สองในนัดนี้ของโอซิล จบเกม รีล มาดริด ชนะ เบติส 3-1 พร้อมกับรั้งรองจ่าฝูงต่อไปมี 71 คะแนน ส่วนเบติสมี 48 คะแนนรั้งอันดับ 7
อีกคู่ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ เสมอ เชลซี 2-2 ออสการ์ยิงให้เชลซีขึ้นนำก่อน 1-0 นาทีที่ 26 แต่ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 จากดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ นาทีที่ 52 และในอีก 5 นาทีถัดมา เชลซีขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจุดโทษของเอเดน ฮาร์ซาร์ด เกมทำท่าว่าเชลซีจะบุกมาชนะได้ แต่ในช่วงทดเวลา หลุยส์ ซัวเรซ ก็มาเป็นฮีโร่โหม่งตีเสมอให้ลิเวอร์พูลได้สำเร็จ จบเกมเสมอกัน 2-2 ลิเวอร์พูลรั้งอันดับ 7 มี 51 คะแนน ส่วนเชลซีรั้งอันดับ 4 มี 62 คะแนน ยังต้องลุ้นสิทธิแข่งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้ากับสเปอร์ และอาร์เซน่อล