คนงานเร่งก่อสร้างกำแพงและรั้วกั้น รอบโรงเรียนบ้านบาโง อ.มายอ จ.ปัตตานี พร้อมเร่งติดตั้งไฟสปอร์ตไลซ์ ที่ใช้พลังงานโดยแผงโซล่าเซลล์กว่า 10 จุดรอบโรงเรียน เพื่อให้แสงสว่าง ก่อนจะเปิดทำการเรียนการสอน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม หลังโรงเรียนแห่งนี้ ต้องสูญเสีย นางตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายสมศักดิ์ ขวัญมา ครู เพราะคมกระสุนของคนร้าย ที่เข้าจ่อยิงในโรงเรียน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปีที่แล้ว
แม้โรงเรียนส่วนใหญ่จะเปิดเรียนวันพรุ่งนี้ แต่ในวันนี้ ครูกว่า 40 คนของโรงเรียนบ้านระแว้ง ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านบาโง ไม่กี่กิโลเมตร เดินทางมาเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้เด็กๆกว่า 500 คน ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้วยการปรับแผนมาตั้งฐานปฏิบัติการใกล้โรงเรียน แต่ครูหลายคนก็รู้ดีต้องระวังตัว แต่สิ่งนี้ก็ไม่เลวร้ายไปกว่าการขอย้ายออกของครูสองคน ทำให้ครูที่สอนเฉพาะสาขาวิชาภาษาไทย อังกฤษ และคณิตศาสตร์ขาดแคลน
แม้เจ้าหน้าที่จะวางมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรงสำหรับครู ไว้สามระดับ คือ 1. การรักษาความปลอดภัยระดับบุคคลที่ต้องขอให้ครูระมัดระวังตัวเอง เมื่ออยู่ในเวลานอกราชการ 2. การดูแลของชุมชน ที่มุ่งเน้นไปที่อาคารสถานที่ของโรงเรียน และ 3. การดูแลความปลอดภัยระหว่างทาง ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของทหาร ที่ต้องเดินทางไปรับส่งครูถึงบ้าน แต่สิ่งที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กังวลคือการปฏิบัตินอกเหนือจากแผน เพราะความเกรงใจของครู เมื่อต้องเดินทางไปทำธุระส่วนตัว จึงอาจตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม พ.อ.ปราโมทย์ ยอมรับว่า มาตรการดูแลครูที่เข้มงวด ซึ่งต้องใช้กำลังพลเกือบหมื่นคน ในการดูแลโรงเรียนมากกว่า 1,000 แห่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจทำให้กำลังพลอ่อนล้า เพราะมีภารกิจที่ต้องดูแลเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย การมีส่วนร่วมของชุมชนและครู จึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นกับเรือจ้างเหล่านี้