สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 1 ปี 2013 ขยายตัว 5.3%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) แต่หดตัว 2.2%QOQ (เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า) โดย พชรพจน์ นันทรามาศ และ ธนกร ลิ้มวิทย์ธราดล
การใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนชะลอตัวลง การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียง 4.2% เนื่องจากการหดตัวลงเหนือความคาดหมายของการใช้จ่ายในหมวดบริการและในหมวดสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค สาธารณูปโภค และพลังงาน เมื่อเทียบกับไตรมาส1 ในปีที่แล้ว ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 3.1% จากการลงทุนในหมวดเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่หดตัว 9.0% ตามการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรที่ชะลอตัวหลังจากที่ได้มีการเร่งนำเข้ามาในช่วงไตรมาส 1 ในปีที่แล้วภายหลังน้ำท่วม อย่างไรก็ดีด้านการก่อสร้างยังสามารถขยายตัวได้ดีทั้งการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ที่ยังขยายตัวได้ 10.3% และ 8.5% ตามลำดับ
การลงทุนภาครัฐขยายตัวได้ดีตามคาด การใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐขยายตัว 18.8% โดยการลงทุนในเครื่องจักรขยายตัว 30.3% จากการลงทุนในเครื่องจักรโรงไฟฟ้าและการนำเข้าเครื่องบินเพื่อการพาณิชย์ ขณะที่การก่อสร้างขยายตัว 13.4% ชะลอลงจากไตรมาสที่แล้วที่ขยายตัว 27.1%
การส่งออกสินค้าชะลอตัวลงแต่การท่องเที่ยวขยายตัวดี การส่งออกขยายตัว 3.8% ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน เป็นต้น รวมไปถึงสินค้าเกษตรอย่างกุ้งแช่แข็งที่ส่งออกได้ลดลงเนื่องจากเกิดโรคระบาด อย่างไรก็ดีรายรับด้านบริการขยายตัว 25.5% จากการขยายตัวของรายรับจากการบริการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลจากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก
ติดตามการใช้จ่ายในประเทศที่ชะลอลง การใช้จ่ายในประเทศในไตรมาส 1 น่าจะขยายตัวได้ดีกว่าข้อมูลที่ออกมาเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบที่สอง อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งช่วยให้ราคาพลังงานไม่เป็นอุปสรรคในการใช้จ่ายของครัวเรือน สำหรับในช่วงที่เหลือปี 2013 นั้น ปัจจัยสนับสนุนของการใช้จ่ายในประเทศจะมาจากการฟื้นตัวของรายได้ของผู้ประกอบการและแรงงานภาคส่งออก ซึ่งต้องติดตามว่าจะสามารถรักษาแรงขับเคลื่อนของการใช้จ่ายโดยรวมต่อไปได้หรือไม่
คาด GDP ในปี 2013 ยังสามารถขยายตัวได้ราว 5% EIC มองว่าความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมีสูงกว่าเดิมเล็กน้อยเนื่องจากการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนขยายตัวได้ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดีการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐและการส่งออกมีแนวโน้มที่ดี นอกจากนี้ การใช้นโยบายการเงินในการพยุงเศรษฐกิจก็สามารถทำได้ในภาวะที่ความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อมีค่อนข้างน้อย