ชาวฝรั่งเศสประท้วงต่อต้านกฎหมายคนรักเพศเดียวกัน

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรุงปารีสของฝรั่งเศส มีการชุมนุมของผู้ประท้วงนับแสนคนที่ต่อต้านกฎหมายใหม่ ซึ่งยินยอมให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งที่ใช้ความรุนแรงทำให้การประท้วงกลายเป็นการจลาจล

ตำรวจต้องฉีดแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่ขว้างแผงเหล็ก, กระป๋องเบียร์ใส่ตำรวจ โดยมีผู้ประท้วงที่ก่อเหตุรุนแรงถูกจับกุม 96 คน การประท้วงมีขึ้นในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ตำรวจระดมกำลัง 4,500 คนคอยดูแลการประท้วง ซึ่งตำรวจระบุว่ามีผู้เข้าร่วมประมาณ 150,000 คน แต่ในฝ่ายของผู้จัดงานอ้างว่ามีผู้เข้าร่วมถึง 1,000,000 คน การชุมนุมมีขึ้นบนฌอง เอลิเซ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของฝรั่งเศส การชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แต่มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 500 คนที่ก่อเหตุรุนแรง

การประท้วงในครั้งนี้เพื่อแสดงความไม่พอใจกฎหมายใหม่ของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ผ่านการลงมติครั้งสุดท้ายในรัฐสภาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ยินยอมให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธิ์ของรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม ผู้ประท้วงแสดงความไม่พอใจนายฟรองซัวส์ โอลลองค์ ประธานาธิบดีซึ่งเป็นผู้ผลักดันกฎหมายนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่เขาประกาศไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี การสำรวจของหนังสือพิมพ์ "จูนนัล ดู ดิม็องเช่" พบว่าเกือบ 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามเบื่อหน่ายกับการประท้วงต่อต้านกฎหมายดังกล่าวที่ยื้ดเยื้อมานานหลายเดือน และคิดว่าการประท้วงในลักษณะนี้ควรจะจบลงได้แล้ว

ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ 9 ของยุโรป และประเทศ 14 ของโลกที่ออกกฎหมายยินยอมให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยประเทศที่เหลือได้แก่แคนาดา, นอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ค, ไอซ์แลนด์, เบลเยี่ยม, สเปน, โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า, แอฟริกาใต้ และนิวซีแลนด์ ส่วนสหรัฐฯ และบราซิลมีกฎหมายเฉพาะบางรัฐเท่านั้น