อดีตผู้นำเขมรแดงขอโทษญาติผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นายเขียว สัมพันธ์ ผู้นำอันดับ 2 ของเขมรแดงอ่านแถลงการณ์เป็นคนแรก เนื้อหาหลัก ๆ ระบุว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งและขอโทษจากใจจริง เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาการกองทัพและผู้นำ จะสร้างความทุกข์ทรมานให้กับประชาชน แม้ว่าเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจใด ๆ ของกลุ่มผู้นำเขมรแดงก็ตาม
ส่วนนายนวน เจีย อดีตนายกรัฐมนตรีของเขมรแดง วัย 86 ปี กล่าวว่า ในฐานะผู้นำ เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นกับประชาชนได้ และขอแสดงความเสียใจจากใจจริง พร้อมขอโทษกับสิ่งที่กระทำลงไปไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แม้อดีตผู้นำเขมรแดงทั้ง 2 คนจะยอมรับผิดบางส่วน แต่ญาติของผู้เสียชีวิตบางคนรู้สึกพอใจที่ทั้งคู่ยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง และยอมขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ทั้งนายนวนเจีย และนายเขียว สัมพันธ์ เป็นอดีตผู้นำเขมรแดงเพียง 2 คนที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลพิเศษที่สหประชาชาติร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาตั้งขึ้นมา เพื่อพิจารณาคดีอดีตผู้นำเขมรแดงในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์,ฆาตกรรม,ทรมานประชาชน ในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจช่วงปี 2518- 2522 ซึ่งประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,700,000 คน
การอ่านแถลงการณ์ขอโทษในครั้งนี้เป็นความพยายามที่จะหาทางลดโทษให้ตัวเอง ด้วยการแสดงให้เห็นว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพียงการปฏิบัติตามคำสั่งโดยกล่าวโทษผู้นำคนอื่น ๆ อย่างนายพอล พตที่เสียชีวิตไปแล้ว อดีตผู้นำเขมรแดงที่ถูกตัดสินไปแล้วมีเพียงคนเดียวคือนายคัง เก็ก เอียวหรือ"สหายดุช" อดีตผู้บัญชาการเรือนจำเอส 21 หรือ ตุลสเลง ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายเอียง สารี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของเขมรแดงเสียชีวิตก่อนที่การพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จเมื่อปี 2553 ส่วนนางเอียง ทิริธ ภรรยาของเขาตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์และร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะเข้ารับการพิจารณาคดี จึงถูกถอนออกจากคดีไปโดยปริยาย