เนื่องจากอะคาเดมีของชลบุรี ให้เด็กได้เรียนหนังสือในสายสามัญควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมฟุตบอล ซึ่งน้อง ๆ จะได้วุฒิตามกระทรวงศึกษาธิการเหมือนนักเรียนในวัยเดียวกัน แต่ความฝันสำหรับนักเตะเยาวชนทุกคนที่มุ่งมั่นมาเป็นนักเตะอาชีพ เป้าหมายสูงสุด คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในสโมสรยุโรป หรือการไปค้าแข้งในสโมสรชื่อดังของเอเชีย หรือแม้แต่ในไทยพรีเมียร์ลีก
แต่หากนักเตะบางส่วนที่ไปไม่ถึงเป้าหมายในการเป็นนักเตะอาชีพการเรียนในสายสามัญสามารถนำไปต่อยอดไปในระดับมหาวิทยาลัยที่เปิดโควต้าพิเศษให้นักกีฬา เช่น โครงการช้างเผือกได้ หรือแม้แต่โอกาสในการเป็นนักฟุตบอลในลีกระดับดิวิชั่น 1 และ 2 ยังเปิดกว้าง และอาจจะมีทางเลือกไปเอาดีในการเป็นโค้ช
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ อนุพงษ์ ทิศศักบุรี โค้ชผู้รักษาประตูที่เริ่มต้นจากการเป็นเด็กในอะเคเดมี่ชลบุรีรุ่นแรก ๆ ที่เคยเล่นในโปรวินเชี่ยนลีก และรู้ว่าตัวเองว่าอาจจะไม่รุ่งในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จึงนำวุฒิการศึกษาที่ได้ไปสมัครเรียนต่อในสาย พละศึกษา จนก้าวไปเป็นครูที่โรงเรียนเทศบาลจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งยังเล่นให้ทีมอุบลในระดับดิวิชั่น 2 อีก 3 ปี ก่อนที่จะถูกดึงไปเป็นโค้ชผู้รักษาประตูที่ อะคาเดมี่ชลบุรี
น้อง ๆ เยาวชนเหล่านี้ ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพหรือไม่ แต่นักเตะเยาวชนเหล่านี้มั่นใจในการดำเนินการของ อะคาเดมีชลบุรี ในยุคปัจจุบัน บวกกับการมีฟุตบอลลีกอาชีพที่ได้รับความนิยมและเห็นตัวอย่างจากนักฟุตบอลในอะคาเดมี่ 2 คน ที่จะไปทดสอบฝีเท้ากับ วิลเซิ่ล โกเบ ที่ประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นการได้ไปค้าแข้งในลีกประเทศญี่ปุ่น แต่เป้าหมายสูงสุดของเยาวชนเหล่านี้ยังอยากเป็นนักฟุตบอลในลีกของยุโรป
นักฟุตบอลเยาวชนส่วนใหญ่ล้วนอยากไปเล่นในยุโรปกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ อาเซน่อล และเชื่อมั่นในความสามารถตัวเองว่าทำได้ แต่หากไม่สามารถก้าวไปถึงฝันที่ตัวเองตั้งไว้ วุฒิการศึกษายังช่วยให้พวกเขาไปประกอบอาชีพอื่น หรือทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลที่พวกเขารักต่อไป