ชาวชุมชนสันติพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี ยื่นฟ้องศาลเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน
ตัวเเทนชาวชุมชนสันติพัฒนา อำเภอพระเเสง จังหวัดสุราษฏ์ธานี พร้อมสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เเผนกคดีสิ่งเเวดล้อม เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ 4 หน่วยงาน ได้เเก่ กรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดิน คณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 เเห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เเละกรมป่าไม้ เพื่อให้ศาลเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน 13 เเปลง เเละหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ นส.3 ก. 10 เเปลง ที่ออกให้กับบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด มหาชน ในพื้นที่ป่าไม้ถาวร เเละป่าสงวนเเห่งชาติ โดยให้นำที่ดินดังกล่าวมาเป็นของรัฐ
ก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัดสินให้จำคุกชาวชุมชนสันติพัฒนา 9 คน ในข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ และให้ชดใช้ค่าเสียหายกับบริษัท เนื่องจากศาลเห็นว่าไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่เป็นชื่อของบริษัทออก แต่ชาวชุมชน เห็นว่า เพราะเจ้าหน้าที่รัฐ เพิกเฉยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย และปล่อยให้นายทุนเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่
ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกคำเนินคดีสะท้อนว่า ปัญหาการกระจายการถือครองที่ดินโดยไม่เป็นธรรม ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เริ่มปรากฏชัดขึ้น เนื่องจากรัฐมีนโยบายนำพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไปให้เช่าระยะยาว และเช่าในราคาถูก ผู้มีฐานะยากจนไม่มีที่ดินทำกิน ไม่ได้รับสิทธิในการเช่า แต่นายทุน นักการเมือง และข้าราชการ ได้รับอนุญาตให้เช่าที่ดิน โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายทุนคนไทยและนายทุนจากต่างชาติ ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากที่ดินหลายแสนไร่ เพื่อปลูกน้ำมันปาล์มและยางพารา