นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ รับฟังปัญหา และตรวจสอบการผลิตข้าวถุง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอบคุณที่ภาคสังคมให้ความร่วมมือช่วยกันตรวจสอบสารปนเปื้อนข้าว แต่อยากให้ภาคสังคมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในขั้นตอนวิธีการตรวจสอบ พร้อมกับขอให้มั่นใจคุณภาพการตรวจสอบข้าวไทยที่ ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WTO) ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับในสากล
ขณะเดียวกันไม่อยากให้เหมารวมว่าข้าวถุงของไทยเกิดปัญหาทั้งหมดเพราะจะไม่เป็นธรรมกับชาวนาและข้าวของไทย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ชี้แจงไปว่าเกิดปัญหาเพียงบางจุดเท่านั้น พร้อมขอให้สื่อมวลชนอย่านำเสนอข่าวให้ประชาชนเกิดความสับสน
ซึ่งในวันที่ 18 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา และตรวจสอบขั้นตอนการผลิตให้ทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนที่มูลนิธิผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตจะส่วผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไปประเทศจีน ก็ขอให้มีการตรวจสอบก่อน
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง ยืนยันว่า ข้าวถุงที่ข้าวในตลาดเวลานี้มีความปลอดภัย ซึ่งสมาคมซุ่มตรวจต่อเนื่อง พร้อมกันนี้เรียกร้องให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเปิดเผยข้อมูลรายละเอียด การตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อนำข้อมูล ไปเทียบเคียงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
นายสมเกียรติ ระบุว่าหากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ไม่สามารถให้รายละเอียดการตรวจสอบกับทางสมาคมฯ หรือกระทรวงพาณิชย์ ว่า ใช้ข้อมูลจากองค์กร หรือหน่วยงานใด ในการตรวจสอบ ทางสมาคมฯ อาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากมองว่าการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่มีที่มาที่ไป และมีผลต่อความน่าเชื่อถือ ส่วนข้าวถุงที่พบว่ามีสารตกค้างมากกว่ามาตรฐาน ผู้ประกอบการได้เก็บสินค้าคืนจากตลาดทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ นายดำรงค์ จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงกรณี ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตรวจสอบพบตัวอย่างข้าว ที่มีสารเมธิลโปรไมด์ เกินมาตรฐาน 1 ทางกรมฯ จะร่วมมือกับองค์การอาหารและยา นำข้าวสารที่เกินมาตรฐานมาตรวจสอบซ้ำ เพื่อความชัดเจน คาดว่าภายใน 2 วัน จะทราบผล
นอกจากนี้จะตรวจสอบว่ามูลนิธิเพื่อผู้บริโภคส่งตรวจข้าวสารที่แหล่งใด เนื่องจากห้องปฏิบัติการที่สามารถทำการตรวจสอบสารเมธิลโบรไมด์ ต้องผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งไทยมีเพียงสองแห่งที่ได้รับการยอมรับ และในวันที่ 18 กรกฎาคม จะหารือร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อหาถึงมาตรฐานข้าวสารในไทย